#คําแนะนําเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซ

EDM มาร์เก็ตติ้งสําหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

Garry Mockeridge
Garry Mockeridge
Marketing and sales content expert
5 mins
facebook sharing button
twitter sharing button
linkedin sharing button
Smart Share Buttons Icon Share
a man looking at an online shop

Email marketing ยังคงเป็นอาวุธที่ทรงพลังในคลังอาวุธของวงการธุรกิจ ในปี 2023 รายได้จาก email marketing ดูเหมือนจะทะลุหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ1 อย่างไรก็ตามเรากําลังพูดถึงการตลาด EDM โดยเฉพาะ หรือ Electronic Direct Mail marketing บางคนใช้คําว่า email marketing และ EDM marketing แทนกัน แต่ความจริงนั้นการตลาด EDM ต่างออกไปเล็กน้อย

Electronic Direct Mail (EDM) Marketing คืออะไร

การตลาด EDM เป็นกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยกําหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหญ่และผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่ใช้อีเมล

กลยุทธ์นี้ออกแบบมาเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า สร้างโอกาสใหม่ และเพิ่มยอดขาย บริษัทสามารถใช้การตลาด EDM ร่วมกับการตลาดแบบ cross-channel เพื่อเข้าถึงลูกค้าโดยใช้ช่องทางที่หลากหลาย

ความแตกต่างระหว่าง Email marketing และ EDM marketing

ในขณะที่การตลาดผ่านอีเมล 'เรียบง่ายกว่า' โดยเป็นการสื่อสารที่เน้นแบรนด์มากขึ้น เช่น อีเมลต้อนรับ ทําให้ลูกค้ามีส่วนร่วมผ่านจดหมายข่าวปกติ ส่วนการตลาด EDM นั้นขับเคลื่อนด้วยการขายและส่งตรงถึงลูกค้า มีวัตถุประสงค์เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ไปยังรายชื่อผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าทางอีเมล2

เพื่อให้สามารถดําเนินการแคมเปญการตลาด EDM ได้คุณต้องมีรายชื่อผู้มีแนวโน้มที่จะเลือกเข้าร่วมจํานวนมาก

ความแตกต่างที่สําคัญอื่น ๆ ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นคือการตลาด EDM มักจะรวมเข้ากับช่องทางอื่น ๆ ในขณะที่การตลาดผ่านอีเมลโดยทั่วไปใช้อีเมลอย่างเดียว

A person looking at email on a phone in front of a laptop displaying a website

การเขียนอีเมล EDM marketing: รายการที่ต้องตรวจสอบ

นี่คือข้อมูลพื้นฐานบางประการที่ควรทราบเมื่อคุณต้องเขียนและออกแบบอีเมลที่เน้นการขาย แน่นอนว่าคุณจะต้องปรับข้อมูลเหล่านี้ให้เข้ากับบริบทของอีเมล

  1. ใช้หัวเรื่องที่น่าสนใจเพื่อเพิ่มโอกาสในการเปิดอีเมล แต่หัวเรื่องต้องเกี่ยวข้องกับเนื้อหาอีเมล          มิฉะนั้นคุณจะมีความผิดฐานทําให้ลูกค้าเข้าใจผิด
  2. เนื่องจากในปัจจุบันอีเมลส่วนใหญ่ถูกเปิดบนโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นควรใช้ข้อความส่วนหัวข้อรองเพื่อซัพพอร์ตหัวเรื่องให้ผู้รับมีความสนใจเพิ่มมากขึ้น
  3. ใช้รูปภาพคุณภาพสูงที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในอีเมล
  4. ใช้การออกแบบที่สอดคล้องกับแบรนด์ของคุณ
  5. ทำสําเนาอีเมลให้กระชับและสอดคล้องกับน้ำเสียงของแบรนด์คุณ
  6. อย่าลืมตรวจสอบอีเมลของคุณก่อนที่จะส่ง
  7. ใส่คํากระตุ้นการตัดสินใจ (CTA) ที่รัดกุม เช่น เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่นี่ หรือ โทรคุยกับตัวแทนได้เลยตอนนี้

หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือคุณสามารถจ้างนักเขียนคําโฆษณามืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญระดับสูงเพื่อทำงานส่วนนี้ให้คุณ - มีฟรีแลนซ์มากมายที่เชี่ยวชาญในการเขียนคําโฆษณาทางอีเมล

EDM marketing: เคล็ดลับยอดนิยม

คุณต้องส่งอีเมลถึงใคร เมื่อใด และอย่างไรเพื่อเพิ่มยอดขายให้ได้สูงสุด นี่คือเคล็ดลับที่เราเตรียมมาให้คุณ

แบ่งกลุ่มรายชื่อลูกค้า

การส่งอีเมลที่ไม่เกี่ยวข้องกับลูกค้าของคุณนั้นไม่มีประโยชน์และสิ้นเปลือง อีกทั้งอาจไม่ดีต่อธุรกิจในระยะยาว วิธีที่ดีกว่าคือการแบ่งกลุ่มรายชื่อลูกค้าและกําหนดเป้าหมายตามลำดับ

มีหลายวิธีในการแบ่งกลุ่มลิสต์อีเมลลูกค้าของคุณ: แบ่งตามอายุ เพศ ความสนใจ สถานที่ การใช้จ่ายรายเดือน และพฤติกรรมบนที่ทำบนเว็บไซต์ของคุณ นี่เป็นเพียงข้อมูลบางส่วนที่คุณสามารถนำไปใช้ด้วยกันได้ กุญแจสําคัญคือการรู้จักลูกค้าของคุณและพฤติกรรมของพวกเขา

เมื่อคุณแบ่งกลุ่มลูกค้าแล้วคุณสามารถส่งข้อเสนอที่เกี่ยวข้องและตรงเป้าหมายไปยังลูกค้าทางอีเมลหรือใช้ช่องทางอื่น ๆ เพื่อเข้าถึงพวกเขา

คุณยังสามารถใช้การแบ่งกลุ่มเพื่อจัดกลุ่มลูกค้าวีไอพีเข้าด้วยกันตามความถี่ในการขาย การใช้จ่ายล่าสุด หรือการใช้จ่ายตลอดชีพ จากนั้นคุณจะรู้ว่ากลุ่มลูกค้าใดที่จะต้องพยายามรักษาไว้ คุณสามารถสร้างโปรแกรมความภักดีสุดพิเศษ (exclusive loyalty program) สําหรับพวกเขาได้

ปรับข้อเสนอให้เข้ากับแต่ละบุคคลเท่าที่จะทำได้

จากข้อมูลลูกค้าคุณสามารถทำความเข้าใจความสนใจของลูกค้าได้ หากลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ทันทีที่เปิดตัวบนเว็บไซต์ ทําไมไม่ให้รหัส VIP ล่วงหน้าแก่พวกเขาเพื่อให้สั่งพรีออเดอร์ ด้วยวิธีนี้ลูกค้าจะรู้สึกมีคุณค่ากับแบรนด์ของคุณและมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นลูกค้าประจํา

คุณยังสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากวันเกิดและวันครบรอบโดยส่งรหัสส่วนลด ตัวอย่างฟรี หรือของขวัญเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษของพวกเขา

ติดตามอีเมลทั้งหมดของคุณ

ติดตามอัตราการคลิกและการเปิดอีเมลของคุณให้ได้มากที่สุด ด้วยการทําเช่นนี้คุณสามารถดูว่าข้อเสนอและอีเมลประเภทใดที่ดึงดูดลูกค้าของคุณ คุณสามารถใช้ A/B testing สําหรับองค์ประกอบเฉพาะ เช่น หัวเรื่อง ได้เช่นกัน

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณติดตามยอดขายและการซื้อด้วยเพื่อพิจารณาว่าอีเมลใดได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ด้วยวิธีนี้คุณสามารถพัฒนาประสิทธิภาพของแคมเปญต่อไปได้ในอนาคต

ทําให้ EDM marketing เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญที่ใหญ่ขึ้น

ตัวอย่างเช่นเมื่อคุณเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หรือคุณได้เติมสต็อกสินค้าขายดีรายการใดรายการหนึ่งแล้วให้ใช้ช่องทางอื่น ๆ ร่วมกับแคมเปญอีเมลของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าข้อความส่งถึงอย่างมีประสิทธิภาพ

โซเชียลมีเดีย โปรโมชั่น และกิจกรรมออฟไลน์สามารถโปรโมตผ่านอีเมลเพื่อให้ลูกค้าถูกล้อมรอบไปด้วยข้อความการขายของคุณ

รถเข็นและอีเมลที่ถูกทิ้ง

หากการติดตามเว็บของคุณแสดงผลว่าผู้ซื้อออนไลน์ละทิ้งรถเข็นของพวกเขา ไม่เป็นไร คุณยังพอมีโอกาสอยู่ คุณสามารถเตือนพวกเขาให้ทราบถึงสิ่งที่ถูกทิ้งไว้ในรถเข็นและเชิญพวกเขาให้ไปที่ขั้นตอนการชำระเงินได้ คุณยังสามารถใช้ข้อเสนอที่เกี่ยวกับโปรโมชั่นที่จำกัดเวลาหรือข้อความแจ้งเตือนว่ามีสินค้าเหลือน้อยเพื่อกระตุ้นให้พวกทำการสั่งซื้ออย่างรวดเร็วหรือเสนอผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่พวกเขาละทิ้ง

คุณสามารถส่งอีเมลสองถึงสามฉบับหลังจากมีการละทิ้งรถเข็นและทดสอบด้วยวิธีการต่าง ๆ แต่ให้แน่ใจว่าคุณส่งอีเมลแรกภายในหนึ่งชั่วโมงในขณะที่ผลิตภัณฑ์ยังคงใหม่สำหรับลูกค้า

ในทํานองเดียวกันหากลูกค้าเรียกดูเว็บไซต์ของคุณแล้วออกไป กระตุ้นให้พวกเขากลับมาด้วยข้อความที่คล้ายกันกับอีเมลที่ใช้กับรถเข็นที่ถูกละทิ้ง ย้ำอีกครั้งสิ่งสําคัญคือต้องดําเนินการอย่างรวดเร็ว

ใช้ประโยชน์สูงสุดจากอีเมลหลังการขาย

ในขณะที่อีเมลหลังการขายมักใช้เพียงเพื่อให้ลูกค้ารู้สึก 'ดี' กับแบรนด์ของคุณ คุณยังสามารถใช้อีเมลเพื่อขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกันได้ ตัวอย่างเช่นหากลูกค้าเพิ่งซื้อแว่นกันแดดใหม่คุณสามารถลองโปรโมตกระเป๋าชายหาดพร้อมส่วนลดเพื่อเป็นการกล่าวขอบคุณ

ไม่ว่าจุดประสงค์อีเมลจะเป็นการขอบคุณลูกค้าสําหรับการสั่งซื้อ การยืนยันการชําระเงิน รายละเอียดผลิตภัณฑ์หรือการจัดส่ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโทนการสื่อสารและการออกแบบของสําเนาต้องสอดคล้องกับแบรนด์ คุณยังสามารถใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเลือกใช้อีเมลการตลาดของคุณ

อีเมลหาลูกค้าที่หยุดใช้บริการ

หากลูกค้าไม่ได้สั่งซื้อสินค้ามาระยะหนึ่งแล้วคุณสามารถเชิญชวนให้พวกเขากลับมาด้วยอีเมล "เราคิดถึงคุณ" หรือ "ข้อเสนอพิเศษ" การทําความเข้าใจว่าใครควรได้รับอีเมลนี้ขึ้นอยู่กับความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับข้อมูลของคุณ: คุณสามารถเริ่มจากการดูวันที่ซื้อล่าสุดของลูกค้า

กลยุทธ์ที่คุณสามารถใช้เพื่อดึงลูกค้าที่หยุดใช้บริการให้กลับมาใช้อีกครั้ง ได้แก่ การเสนอสิ่งจูงใจ เช่น ให้ส่วนลด นําเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่พวกเขาเคยซื้อก่อนหน้านี้ และขอความคิดเห็นว่าทําไมพวกเขาถึงหยุดใช้บริการ

Email automation ทําให้ทุกอย่างเป็นจริงได้

มันเป็นเรื่องที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการดําเนินกลยุทธ์อีเมลมาร์เก็ตติ้งให้มีประสิทธิภาพนั้นจะต้องมีระบบอีเมลอัตโนมัติ การส่งข้อความตามลําดับอัตโนมัติโดยอิงจากการโต้ตอบของผู้ใช้ช่วยกระตุ้นการขายในระยะยาวและช่วยให้คุณสามารถพัฒนาข้อเสนอทีละนิดจนกว่าคุณจะพบจุดที่เหมาะจะเปลี่ยนลูกค้าธรรมดาให้เป็นลูกค้าประจำซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละราย ลองนึกถึงข้อเสนอที่คุณสามารถให้ลูกค้าได้ตั้งแต่ส่วนลดไปจนถึงการจัดส่งฟรี

ประโยชน์ของแคมเปญ EDM marketing

แคมเปญการตลาดโดยใช้อีเมลมีประโยชน์และข้อได้เปรียบเหนือกว่าการตลาดรูปแบบอื่น ๆ นี่คือประโยชน์เจ็ดอันดับแรกของเรา

 1. ผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมจากการลงทุน

การลงทุนกับอีเมลมาร์เก็ตติ้งในระยะเริ่มต้นใช้ทุนค่อนข้างต่ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับอินฟลูเอนเซอร์มาร์เก็ตติ้ง อย่างไรก็ตามมันสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากต่อการขายเมื่อคุณมุ่งเป้าไปที่รายชื่อที่สมัครเข้ามาเองซึ่งแสดงว่าพวกเขาสนใจในธุรกิจของคุณ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้การตลาด EDM ในความเป็นจริงนั้นจากการลงทุนของอีเมลมาร์เก็ตติ้งในทุก ๆ หนึ่งดอลลาร์สหรัฐจะได้รับผลตอบแทนกลับมา 45 ดอลลาร์3

2. การเข้าชมเว็บไซต์ของคุณเพิ่มขึ้น

รวมข้อเสนอที่น่าสนใจและคํากระตุ้นการตัดสินใจที่ดีไว้ในการสื่อสารของแบรนด์ทั้งหมดพร้อมกับแนบลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณ - หากรวมช่องทางออฟไลน์ให้ใส่ที่อยู่เว็บไซต์ด้วย ด้วยวิธีนี้คุณสามารถเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์และเพิ่มยอดขายได้

3. ความสัมพันธ์กับลูกค้าที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

อีเมลที่ตรงเป้าหมายและปรับให้เข้ากับแต่ละบุคคลเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าของคุณยิ่งขึ้น ยิ่งผู้คนรู้สึกว่าพวกเขารู้จักแบรนด์ของคุณมากเท่าไหร่ ยิ่งพวกเขารู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจพวกเขามากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งไว้วางใจแบรนด์ของคุณมากขึ้นเท่านั้น สิ่งนี้จะเพิ่มยอดขายให้ในระยะยาวเช่นกัน

4. แบรนด์ของคุณจะเป็นที่หนึ่งในใจ

ถึงจุดสนใจหลักของการตลาด EDM ส่วนใหญ่คือการขาย แต่การตลาดนี้ยังช่วยให้แบรนด์ของคุณเป็นแบรนด์แรกที่ลูกค้านึกถึง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ซื้อสินค้าในทันทีก็ตาม แต่การทำให้พวกเขามีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดพวกเขาจะซื้อสินค้ากับคุณเอง

5. พัฒนาการมีส่วนร่วมในสังคม

การตลาด EDM สามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของคุณบนแพลตฟอร์มโซเชียลเช่นเดียวกับการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่นในอีเมลคุณสามารถกระตุ้นให้ผู้คนค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณและติดตามบนโซเชียล การใช้ช่องทางที่หลากหลายควบคู่ไปกับอีเมลเป็นหนึ่งในจุดแข็งของEDM มาร์เก็ตติ้ง

6. ประหยัดเวลาโดยใช้ระบบอัตโนมัติ

ด้วยข้อความอัตโนมัติที่ไม่จําเป็นต้องปรับให้เข้ากับแต่ละบุคคล คุณสามารถประหยัดเวลาเพื่อไปทุ่มเทในด้านอื่น ๆ ของธุรกิจ นี่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่าในการเข้าถึงผู้คนให้มากขึ้น

7. ค้นหาสิ่งที่ลูกค้าของคุณต้องการจริง ๆ

การขายสินค้าจะง่ายขึ้นถ้าคุณรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร การตลาดโดยใช้อีเมลช่วยให้คุณได้รับข้อเสนอแนะในรูปแบบของแบบสํารวจความพึงพอใจ เช่นเดียวกับการสร้างความภักดีที่เกิดจากลูกค้าเห็นว่าคุณใส่ใจในความคิดเห็นของพวกเขา สิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณพัฒนาผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ที่คุณมอบให้แก่ลูกค้าซึ่งนําไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้น

คําถามที่พบบ่อยใน EDM Marketing 

EDM ในการตลาดคืออะไร

EDM เป็นตัวย่อของ Electronic Direct Mail คําว่า 'Direct' ในที่นี้หมายถึงรูปแบบอีเมลที่เน้นการขายมากขึ้น

EDM marketing เหมือนกับ email marketing หรือไม่

ไม่ค่อยเหมือน ถึงบางคนใช้สองคํานี้แทนกันแต่ EDM marketing นั้นเน้นการขายมากกว่าในขณะที่ email marketing ครอบคลุมการสื่อสารที่ 'เรียบง่ายกว่า'  นอกจากนี้การตลาด EDM มักจะเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ที่ซับซ้อนและหลายช่องทาง

EDM marketing และ email marketing แตกต่างกันอย่างไร

การตลาด EDM เป็นการขายตรงและมุ่งเน้นการขายมากกว่า แต่การตลาดผ่านอีเมลคือการสื่อสารที่เน้นการขายน้อยลง เช่น จดหมายข่าวและอีเมลต้อนรับ นอกจากนี้การตลาด EDM มักจะมุ่งเป้าไปที่ผู้ที่เลือกใช้อีเมลและมีความสนใจในแบรนด์อยู่แล้วในขณะที่การตลาดผ่านอีเมลอาจเน้นในส่วนนี้น้อยกว่า ประเด็นสุดท้ายคือการตลาด EDM มักใช้ร่วมกับช่องทางการตลาดอื่น ๆ เช่นโซเชียลมีเดีย ในขณะที่การตลาดผ่านอีเมลมักที่จะใช้อีเมลเพียงอย่างเดียว