วิธีการทำงาน
ทำไมต้องเป็น DHL ด้วย
เครือข่ายของเรา
Sage บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นที่ออสเตรเลียในปี 1932 เป็นแบรนด์ไอคอนิกระดับโลกที่มักจะพบเห็นชื่อแบรนด์ตามเครื่องใช้ไฟฟ้าในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก
ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของ Sage – ตั้งแต่เครื่องปั่นไปจนถึงเครื่องทำวาฟเฟิล - มีเป้าหมายที่จะทำให้ผู้คนประทับใจกับความสะดวกในครัวที่บ้าน ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญของดีไซน์และนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนแบรนด์ การดำเนินกิจการในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดนี้ทำให้แบรนด์ที่มีหลากหลายช่องทางต้องรับแรงกดดันด้านเวลาและต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภคผ่านผู้ค้าปลีกภายนอกและทางออนไลน์ผ่านร้านค้าบนเว็บไซต์และตลาด
ศูนย์กระจายสินค้ากลางในยุโรป (DC) ที่ตั้งอยู่ที่กรุงปรากเป็นหัวใจสำคัญของการกระจายสินค้าของ Sage มาตั้งแต่รวมศูนย์บริการคลังสินค้าแบบ B2B และ B2C ในยุโรปที่เมืองหลวงดังกล่าวในปี 2018
ข้อยกเว้นมีเพียงตลาดสหราชอาณาจักรใช้บริการของ 3PL ที่ให้บริการ DC สำหรับธุรกิจ B2C ในสหราชอาณาจักร เจตนาคือการยกเลิกบริการดังกล่าวและรวมการดำเนินการเกี่ยวกับ B2C ทั้งหมดไว้ที่กรุงปรากที่เดียว
อย่างไรก็ตาม แรงกดดันเรื่องระยะเวลาจัดส่งจากลูกค้าในสหราชอาณาจักร ที่คาดหวังให้มีการจัดส่งถึงหน้าบ้านภายใน 48 ชั่วโมง ทำให้การจัดส่งสินค้าจากกรุงปรากนานขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากมีข้อบังคับใหม่ๆ ที่เป็นผลมาจาก Brexit ในเดือนมกราคม 2021 ต้นทุนที่แท้จริงในการให้บริการลูกค้าแต่ละรายก็เริ่มมีความสำคัญเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการจัดส่งสินค้าจาก DC ในกรุงปรากให้แก่ลูกค้าในสหราชอาณาจักรก็จะพุ่งสูงขึ้นเนื่องจาก Brexit
หลังจาก Sage ได้มีความสัมพันธ์ในการทำงานกับ DHL เป็นอย่างดี ในฐานะผู้ให้บริการ DC ในกรุงปราก ทางบริษัทก็ได้เชิญให้ DHL มาจัดการเรื่องบริการคลังสินค้าของธุรกิจแบบ B2C ในสหราชอาณาจักรด้วย
DHL Fulfillment Network ได้ส่งมอบโซลูชันที่รวดเร็วและมีความเสี่ยงต่ำเพื่อตอบโจทย์ความต้องการโดยเฉพาะของ Sage ในสหราชอาณาจักรภายในระยะเวลาสามเดือน
ผลิตภัณฑ์อี-คอมเมิร์ซใหม่เป็นแบบแยกส่วนที่ชำระค่าบริการตามการใช้งานจริงและใช้กระบวนการปฏิบัติการและเทคโนโลยีสารสนเทศมาตรฐาน ซึ่งลดความซับซ้อนในการถ่ายโอนกระบวนการปฏิบัติการด้วยการผนวกรวมระบบกับตลาดและผู้ให้บริการขนส่งที่ Sage ใช้บริการอยู่ในปัจจุบันอย่างเรียบง่าย ลักษณะแบบแยกส่วนทำให้ Sage สามารถที่จะร่วมงานกับผู้ให้บริการขนส่งในสหราชอาณาจักรที่มีผลงานดีได้ต่อไป นอกจากนี้ ยังทำให้บริษัทสามารถปรับขนาดได้ในอนาคตเนื่องจากเป็นระบบชำระค่าบริการตามการใช้งานจริงและมีอัตราค่าบริการตามปริมาณและสนับสนุนการขยายตลาด ความคล่องตัวและการเติบโต
นอกจากนี้ Fulfillment Network ยังทำให้ Sage มีข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่จำเป็นในสหราชอาณาจักร โดยใช้โซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจรที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านความโปร่งใสและการทราบสถานะสินค้าของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่การคลิกสั่งซื้อบนเว็บไซต์ไปจนถึงการจัดส่งถึงหน้าบ้านได้
เป็นคนแรกที่ทราบแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดเกี่ยวกับบริการคลังสินค้าของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ&ด้วยการสมัครรับจดหมายข่าวของเรา
ความไว้วางใจและความเข้าใจที่ DHL และ Sage มีให้ต่อกันระหว่างร่วมมือกันที่กรุงปรากได้ทำให้ศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ในสหราชอาณาจักรของ Sage เปิดตัวได้อย่างราบรื่น
การถ่ายโอนระบบปฏิบัติการแบบ B2C ในปัจจุบันที่สหราชอาณาจักรของแบรนด์ให้แก่ DHL ได้ทำให้ช่วยป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจาก Brexit ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้บริการ 24-48 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องที่จำเป็นแก่การทำให้ผู้ซื้อมีต้นทุนที่แท้จริงในการให้บริการลูกค้าแต่ละรายที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้
ในปัจจุบัน การจัดส่งพัสดุตรงตามเป้าหมายผลงาน 98.5% สำหรับบริการจัดส่งถึงมือภายในวันถัดไปและแบบมาตรฐาน
นอกจากนี้ การใช้บริการ Fulfillment Network ของ DHL ยังทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วยเนื่องจาก Sage ได้ลดต้นทุนที่แท้จริงในการให้บริการลูกค้าแต่ละรายเมื่อเทียบกับการใช้บริการ 3PL ในสหราชอาณาจักร อีกทั้งยังลดค่าใช้จ่ายในการจัดส่งไมล์สุดท้ายที่เพิ่มมากขึ้น และจะต้องเสียเนื่องจากอัตราค่าจัดส่งไปต่างประเทศจาก DC ในกรุงปราก ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดส่งถึงมือในวันถัดไปในสหราชอาณาจักรทำให้ลูกค้าของ Sage มีแนวโน้มที่จะใส่สินค้าลงในตะกร้า แต่ไม่ชำระเงินเนื่องจากค่าจัดส่งหรือระยะเวลาจัดส่งน้อยลง
ลองใช้บริการเครื่องคำนวณค่าบริการคลังสินค้าของเราเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
จำลองว่าคุณจะสามารถปรับปรุงระยะเวลาจัดส่งให้มีประสิทธิภาพที่สุดได้อย่างไร
คุณสนใจใช้บริการคลังสินค้าที่ปรับขนาดได้ใช่หรือไม่
ถ้าสนใจ ก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ก-ส
ส-ห
อ-เ
เ-ไ