วิธีการทำงาน
ทำไมต้องเป็น DHL ด้วย
เครือข่ายของเรา
หน่วยการจำแนกวัสดุคืออะไร บทความนี้ของเราจะนิยามความหมายจริงของคำว่าหมายเลข SKU และสาเหตุที่คุณต้องมี SKU ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์
SKU ย่อมาจากคำว่า ‘stock-keeping unit’ (หน่วยการจำแนกวัสดุ) สมมติว่าคุณขายเสื้อยืดห้าสี สีละสามไซส์ แสดงว่าเสื้อยืดคุณมีทั้งหมด 15 SKU
คนมักจะสงสัยว่าคำว่า ‘SKU’ อ่านว่าอย่างไร อ่านได้หลายแบบ! จะอ่านแต่ละพยัญชนะแยกกันก็ได้ – “S – K – U” หรือจะอ่านเป็นคำเดียวเลยก็ได้: “สกู”
แล้วอะไรที่ไม่ใช่ SKU บ้างล่ะ! คุณอาจสับสน SKU กับหนึ่งในตัวระบุอื่นๆ ด้านล่าง แต่ตัวระบุเหล่านี้ก็มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญอยู่บ้าง:
รหัส SKU: เป็นรหัสที่ไม่ซ้ำกัน (บางครั้งเรียกว่า ‘หมายเลข SKU’) ที่บริษัทกำหนดให้แก่ SKU ของตนเอง ดูวิธีสร้างรหัสสำหรับธุรกิจคุณได้ด้านล่าง หมายเลขซีเรียล: หมายเลขที่กำหนดให้กับสินค้าคงคลังแต่ละชิ้นของคุณ ซึ่งบริษัทเทคโนโลยีมักจะใช้กัน: หากพวกเขามีโทรทัศน์รุ่นหนึ่งจำนวน 200 เครื่องในสต๊อก แต่ละเครื่องก็จะมีหมายเลขซีเรียลไม่ซ้ำกัน แต่มี SKU เหมือนกัน เลขล็อตสินค้า: จะบ่งบอกถึงล็อตที่ผลิตสินค้า และมักจะใช้อุตสาหกรรมอาหารและยา SKU หนึ่งอาจจะมีเลขล็อตสินค้าหลายเลขก็ได้ บาร์โค้ด: ให้มองว่าเป็นการแปลงรหัส SKU เพื่อให้สามารถสแกนได้ บาร์โค้ดของแต่ละ SKU จะไม่เหมือนกัน แน่นอนว่าสามารถใช้บาร์โค้ดกับตัวระบุอื่นๆ ได้ UPC: รหัสสินค้าที่เป็นมาตรฐานสากลและประกอบด้วยเลข 12 หลักตามมาตรฐาน ซึ่งสินค้าที่ผลิตทุกขึ้นจะมีเลขนี้ที่ได้รับจากองค์กรมาตรฐานระดับโลกให้แก่ผู้ผลิตสินค้าประเภทดังกล่าว
SKU ในวงการโลจิสติกส์เป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของการจัดการสินค้าคงคลังให้ประสบความสำเร็จ เป็นสิ่งที่จำเป็น หากขาดไป บริษัทที่กำลังเติบโตก็จะดำเนินกิจการไปไม่ได้ และทำให้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทีมงานของ DHL Fulfillment Network จะขอรหัส SKU ของลูกค้าใหม่ตอนลงทะเบียน
เรามาดูรายละเอียดดีกว่าว่าทำไมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง:
SKU ของคุณเป็นสิ่งแรกที่คุณจะต้องดูเมื่อวิเคราะห์สินค้าคงคลัง ให้มองว่าเป็น ‘รากฐาน’ ของสต๊อกสินค้าของคุณ คุณจะทราบอย่างชัดเจนว่าคุณขายเสื้อยืดสีเขียวไซส์กลางไปแล้วกี่ตัว มีเหลือในสต๊อกกี่ตัวและจำเป็นต้องสั่งเพิ่มกี่ตัว คุณจะทราบด้วยว่าเสื้อยืดสีเหลืองขายได้ไม่ดีตลอดทั้งปีและยอดขายเสื้อยืดสีแดงพุ่งสูงขึ้นช่วงก่อนจะถึงเทศกาลคริสต์มาส
ในทางกลับกัน หากคุณเพียงแค่ดูปริมาณสินค้าในสต๊อกเป็นแบบกลุ่มหรือ ‘ตระกูล’ คุณก็อาจจะเห็นว่ามีสต๊อกเสื้อยืดสีเขียวจำนวนมาก แต่จะไม่ทราบว่าคุณมีเสื้อไซส์เล็กมากเกินไปและไซส์ใหญ่หมดสต๊อกแล้ว
หากคุณไม่ลงรายละเอียดถึงในระดับ SKU คุณก็จะไม่สามารถตัดสินใจเรื่องสินค้าคงคลังและการจัดซื้อได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วนเนื่องจากสิ่งที่คุณวิเคราะห์จะไม่ครอบคลุมภาพรวมทั้งหมด คุณจะไม่เข้าใจถึงความแตกต่างเพียงเล็กน้อยของยอดขายและจะพลาดโอกาสในการเติบโตไป
เป็นคนแรกที่ทราบแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดเกี่ยวกับบริการคลังสินค้าของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ&ด้วยการสมัครรับจดหมายข่าวของเรา
คำถามนี้ไม่มีคำตอบตายตัวเพียงคำตอบเดียว แบรนด์ค้าปลีกแฟชั่นข้ามชาติขนาดใหญ่แบรนด์หนึ่งจะมี SKU จำนวนมหาศาล ส่วนบริษัทสตาร์ทอัพหรือบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วและผลิตสินค้าเฉพาะกลุ่มอาจจะมีแค่สิบรายการในตอนแรก
อย่างไรก็ตาม ก็มีความจริงเพียงหนึ่งเดียวสำหรับทุกบริษัท: คุณควรมี SKU ให้มากพอที่จำเป็นสำหรับการเติบโตของคุณ - และสำหรับการเติบโตที่คุณรับมือได้
ยิ่งคุณมีสายผลิตภัณฑ์และ SKU มากเท่าไหร่ คุณก็เสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น:
ประเด็นหลักก็คือบริษัทสามารถกำหนดรหัส SKU ผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้หน่วยงานภายนอกสร้าง ตรวจสอบหรือลงทะเบียนให้คุณ เพียงแค่ใช้สเปรดชีตเพื่อสร้างและเก็บรักษารหัส SKU อย่างไรก็ตาม ก็มีซอฟต์แวร์ที่จะช่วยให้คุณสร้างรหัสได้อย่างรวดเร็วและได้ผล หากคุณต้องการใช้งาน
ตัวอย่างปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณาขณะจัดทำรหัส SKU:
คุณน่าจะต้องใช้รหัส SKU กับพันธมิตร: ไม่ว่าจะเป็นซัพพลายเออร์ ร้านค้าบนเว็บไซต์ (เช่น Shopify PrestaShop ฯลฯ) หรือผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ของคุณ คุณอาจจะสร้างระบบรหัส SKU ที่ประกอบด้วยเลข 8 หลัก แต่ระบบของพันธมิตรคุณอาจจะกำหนดให้รหัสมีความยาว 12 หลักและมีพยัญชนะด้วย DHL Fulfillment Network สามารถใช้งานรหัส SKU ที่คุณใช้อยู่แล้วได้ ร้านค้าบนเว็บไซต์ใหญ่ๆ ก็มีระบบที่ยืดหยุ่นเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ให้ศึกษารายละเอียดของบุคคลภายนอกทั้งหมดเพื่อพิจารณาว่าคุณจะต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับข้อกำหนดของพวกเขาหรือไม่
ทีมงานที่ DHL Fulfillment Network ใช้รหัส SKU ของลูกค้าตลอดทั้งวันและในทุกวัน รหัสดังกล่าวเป็นเสาหลักของเครื่องมือจัดการสินค้าคงคลังของเราทั้งหมด
ลูกค้ามาใช้บริการกับเราเพราะต้องการสัมผัสเครือข่ายศูนย์บริการคลังสินค้ามืออาชีพที่ตั้งอยู่ตามทวีปยุโรป เอเชียและอเมริกา และจะทำให้สต๊อกสินค้าของพวกเขาอยู่ใกล้ฐานลูกค้า พวกเขาสามารถเคลื่อนย้ายและเปลี่ยนสต๊อกสินค้าให้เข้ากับยอดขายสินค้า
และไม่ใช่แค่นี้ เพราะตัวช่วย advanced inventory insights ทำให้ลูกค้าแต่ละคนของเราสามารถดูสินค้าคงคลังอย่างละเอียดบนแดชบอร์ดโดยเฉพาะ จากนั้น ก็เจาะลึกเพิ่มเติมเพื่อวิเคราะห์ปริมาณสินค้าในสต๊อกและความเคลื่อนไหวตามคลังสินค้าแต่ละแห่ง พวกเขายังสามารถวิเคราะห์สถานการณ์แบบ ‘จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหาก’ สำหรับสินค้าคงคลังของตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสินค้าหมดสต๊อก
และพวกเขาจะทำทั้งหมดนี้ได้ก็อย่างที่คุณเดาออกว่าเป็นเพราะ รหัส SKU ที่สามารถบอกอะไรได้มากมายจากแค่ไม่กี่ตัวอักษร
ลองใช้บริการเครื่องคำนวณค่าบริการคลังสินค้าของเราเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
จำลองว่าคุณจะสามารถปรับปรุงระยะเวลาจัดส่งให้มีประสิทธิภาพที่สุดได้อย่างไร
คุณสนใจใช้บริการคลังสินค้าที่ปรับขนาดได้ใช่หรือไม่
ถ้าสนใจ ก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ก-ส
ส-ห
อ-เ
เ-ไ