DHL Express ผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ เปิดตัว GoGreen Plus โซลูชั่นเพื่อการขนส่งที่ช่วยให้ธุรกิจลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งผ่านการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel - SAF) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพที่ผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น น้ำมันพืช ไขมันสัตว์ ของเสียและพืชผลทางการเกษตร SAF ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อใช้แทนเชื้อเพลิงเครื่องบินแบบดั้งเดิมและสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงฟอสซิล
ความยั่งยืนเป็นมากกว่าคําศัพท์ยอดฮิต เพราะความยั่งยืนเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่สําคัญที่สุดที่ส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรมในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น ในภาคอีคอมเมิร์ซ ผู้ซื้อออนไลน์มีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกิจกรรมการช้อปปิ้งของเขา โดย 88% กล่าวว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะมีความภักดีต่อธุรกิจที่สนับสนุนและลงมือทำเพื่อช่วยสิ่งแวดล้อม1
ที่จริงแล้ว ธุรกิจของคุณอาจได้เริ่มลงมือทำเพื่อก้าวสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมบ้างแล้ว เช่น เปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ หรือเข้าร่วมโครงการชดเชยคาร์บอน แต่มีวิธีใหม่ที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นและเปลี่ยนโลจิสติกส์ไปอย่างสิ้นเชิง นั่นคือ DHL Express ได้เปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel - SAF) สําหรับการจัดส่งสินค้าข้ามประเทศได้แล้ว
51% ของผู้บริโภคกล่าวว่า การทําความเข้าใจรอยเท้าคาร์บอน (Carbon footprint) ของการขนส่งจะมี "ความสําคัญมาก" ในอีก 5 ปีข้างหน้า2 และบริการ GoGreen Plus จาก DHL Express นี้เองที่จะทำให้ธุรกิจของคุณกำหนดได้เองว่าต้องการลดปริมาณปล่อย CO2e แค่ไหน หรือต้องการใช้ SAF มากแค่ไหน
GoGreen Plus ไม่เหมือนกับ "การชดเชยการปล่อยคาร์บอน" หรือ Offsetting ที่ธุรกิจมักจะชดเชยการปล่อยมลพิษของพวกเขาให้ "เป็นกลาง" ผ่านโครงการด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น การปลูกป่าและโครงการฟื้นฟูที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า เพราะ GoGreen Plus เป็นการลดการปล่อยคาร์บอนแบบ "insetting" หรือภายในกระบวนการดำเนินการ ซึ่งหมายความว่าธุรกิจสามารถดําเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 3 (Scope 3 emissions) ให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดตั้งแต่เริ่ม Scope 3 emissions นี้เป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจต่างๆ วิธีการลดการปล่อยคาร์บอนแบบ Insetting นี้จึงเป็นวิธีที่ลดการปล่อยก๊าซได้ตรงจุดและสร้างผลลัพธ์ในการลดการปล่อยมลพิษที่วัดผลได้ ลูกค้าของ DHL สามารถนำผลลัพธ์นี้ไปใช้สําหรับการรายงานการปล่อยมลพิษโดยสมัครใจ และเป็นวิธีที่สอดคล้องกับหลัก Science Based Target Initiative (SBTi)
ลูกค้าทั่วไปที่ไม่ใช่บริษัทขนาดใหญ่ก็สามารถใช้บริการ GoGreen Plus สำหรับการส่งของไปต่างประเทศได้เช่นกัน รวมถึงการส่งออกสินค้าสำหรับ SMEs หรือธุรกิจอีคอมเมิร์ซขนาดเล็กที่มีออร์เดอร์จัดส่งไม่มาก ไม่ว่าคุณจะส่งของไปต่างประเทศในปริมาณมากหรือน้อย บ่อยหรือไม่บ่อย บริการ GoGreen Plus ก็มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับได้ตามความต้องการเสมอ
คุณสามารถเลือกใช้บริการ GoGreen Plus จาก DHL Express ได้ 2 รูปแบบ คือ ทำสัญญาการใช้บริการ หรือเลือกใช้ได้ผ่านแพลตฟอร์มการขนส่งระหว่างประเทศ MyDHL+ ซึ่งในแพลตฟอร์มนี้ คุณสามารถจัดการการขนส่ง และติดตามสถานะการส่งของไปต่างประเทศด้วยตนเองได้ด้วย
สำหรับรูปแบบสัญญา ธุรกิจของคุณจะต้องตัดสินใจว่าต้องการลด CO2e ลงเท่าใดและลงทุนในเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel - SAF) เท่าใด เท่ากับว่าธุรกิจมีอิสระในการกำหนดตัวเลขได้เอง ทั้งนี้ DHL Express จะใช้เงินสมทบเพื่อร่วมลงทุนใน SAF ด้วยเช่นกัน จากนั้นในทุกๆ ปี ผู้ตรวจสอบอิสระจะตรวจสอบว่าลดการปล่อยคาร์บอนได้ปริมาณเท่าไร จากปริมาณ SAF ที่ใช้ รวมทั้งตรวจสอบว่าการลงทุนทั้งหมดถูกใช้สําหรับ SAF โดยเฉพาะ
บริษัทของคุณจะได้รับใบรับรอง ที่ระบุว่าลดการปล่อยคาร์บอนในปริมาณเท่าไร ซึ่งสามารถใช้เพื่อรายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ใน Scope 3 ของบริษัทได้
DHL Exress จะออกใบแจ้งหนี้ให้คุณตามเงื่อนไขที่คุณตกลงจะลงทุนใน SAF (ค่าใช้จ่ายเป็นเงินก้อน หรือต่อกิโลฯ) พร้อมให้รายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ฟรี
หากสนใจบริการ GoGreen Plus สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายที่ดูแลคุณ (ในกรณีที่มีบัญชีนำเข้าส่งออกกับ DHL Express แล้ว) หรือติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ DHL Express ได้ที่เบอร์ 02-345-5000 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ GoGreen Plus
สำหรับการเลือกใช้บริการ GoGreen Plus ผ่านการติ๊กเลือกในแพลตฟอร์ม MyDHL + ก็สามารถทำได้ง่ายดาย ลูกค้าที่สนใจส่งของไปต่างประเทศ พร้อมลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่งสินค้าทางอากาศไปกับเรา เพียงเลือก GoGreen Plus ในระหว่างการทำรายการจัดส่งบน MyDHL+ โดยตัวเลือกในแพลตฟอร์มนี้จะกำหนดค่าการลด CO2e มาตรฐานที่ 30%
DHL Express หน่วยธุรกิจด้านการขนส่งระหว่างประเทศภายใต้กลุ่มบริษัท DHL Group มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายที่ทะเยอทะยานในการลดการปล่อยมลพิษที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ทั้งหมดให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 และเรายินดีร่วมมือกับลูกค้าทุกคนอย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของตนเอง
DHL Express ได้ประกาศข้อตกลงด้าน SAF (Sustainable Aviation Fuel) หรือเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมารวมสองฉบับกับ BP และ Neste ซึ่งเป็นผู้จัดหา SAF มาให้ DHL Express รวมมากกว่า 800 ล้านลิตร ซึ่งมีส่วนทําให้เราสามารถตั้งเป้าหมายระยะสั้นให้เกิดขึ้นจริงได้ นั่นคือการเปลี่ยนมาใช้ SAF 30% สําหรับการขนส่งทางอากาศทั้งหมดภายในปี 2030
ความยั่งยืนมีความสําคัญ ทั้งต่อโลก ต่อลูกค้าของคุณและผลกําไรของธุรกิจของคุณ และบริการ GoGreen Plus จาก DHL Express คือหนึ่งในบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นสู่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นของเรา
เปิดบัญชีส่งออก-นำเข้ากับ DHL Express และให้บริการ GoGreen Plus ช่วยธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม