สมัครบัญชี DHL มีแต่ได้กับได้!

รับเรทราคาพิเศษ
บริการขนส่งมาตรฐานระดับโลก
ดำเนินพิธีศุลกากรให้
ให้คำปรึกษาด้านการขนส่ง

สมัครเลย

#คําแนะนําสําหรับธุรกิจขนาดเล็ก

วิธีเลือกชื่อที่ดีที่สุดสําหรับธุรกิจของคุณ

Anna Thompson

Discover content team

3 กันยายน ค.ศ. 2020 8 min read

ชื่อธุรกิจของคุณเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ ดึงดูดผู้บริโภค และเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ บทความนี้จะมาบอกเคล็ดลับกลยุทธ์ที่คุณควรใช้เพื่อเลือกชื่อที่เหมาะสม

ดังนั้นหากคุณกําลังเปิดตัวธุรกิจใหม่ และกำลังใช้เวลากับการวิจัยตลาด การวิเคราะห์คู่แข่ง การวางแผนทางการเงิน และการวางกลยุทธ์ คณยังเหลืองานที่น่าตื่นเต้นอีกอย่างหนึ่งนั่นคือการเลือกชื่อให้กับธุรกิจของคุณ

ชื่อที่คุณเลือกมีความสําคัญมาก เพราะเป็นโอกาสแรกของคุณในการดึงดูดผู้คนให้อยากรู้จักผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณมากขึ้น

หากลอง Google เร็ว ๆ เกี่ยวกับหัวข้อ "การตั้งชื่อธุรกิจของคุณ" คุณจะพบข้อมูลนับไม่ถ้วนและขัดแย้งกัน บางคนบอกว่าชื่อธุรกิจของคุณควรอธิบายว่าธุรกิจนี้คืออะไร (เช่นคุณรู้อย่างแน่นอนว่าคุณจะพบอะไรเมื่อคุณเยี่ยมชมเว็บไซต์ We Sell Carpets¹) บางคนบอกว่าชื่อของธุรกิจควรจะเป็นสิ่งที่น่าจดจํา บางคนก็บอกว่าควรใช้ชื่อที่มีอารมณ์ขันด้วย หากคุณดูชื่อแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเช่น Adidas, Starbucks, Google ก็ยิ่งสับสนไปอีกเพราะชื่อแบรนด์เหล่านี้เหมือนเลือกคำสุ่ม ๆ มา แต่หากขุดลึกลงไปอีกนิดจะพบว่าภายใต้ชื่อเหล่านี้มักจะมีเรื่องราวซ่อนอยู่ เช่นอันที่จริงชื่อของ Google มาจากคําศัพท์ทางคณิตศาสตร์ว่า 'googol' หมายถึงจำนวนเลข 1 ตามด้วยเลข 0 อีกหนึ่งร้อยตัว คํานี้ถูกเลือกเพื่อแสดงถึงการให้ข้อมูลไม่จํากัดของเครื่องมือค้นหา².

แม้จะเป็นรู้จักไปทั่วโลกแต่ไม่ได้แปลว่าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่กล่าวถึงข้างต้นประสบความสําเร็จเพราะชื่อของพวกเขาเท่านั้น ชื่อธุรกิจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเส้นทางการสร้างแบรนด์และต้องทํางานร่วมกับกลยุทธ์การสื่อสารอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย

ดังนั้นเคล็ดลับที่ทําให้ชื่อแบรนด์ประสบความสําเร็จคืออะไร?

กุญแจสําคัญซึ่งถือเป็นหัวใจของทุกธุรกิจคือลูกค้า การทําความเข้าใจแรงจูงใจ พฤติกรรมและสิ่งที่ทําให้พวกเขาเลือกเป็นกุญแจสู่ความสําเร็จทางธุรกิจและควรนำมาเป็นปัจจัยในการเลือกชื่อธุรกิจของคุณ ในความเป็นจริงมีจิตวิทยาที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระบวนการตัดสินใจของผู้บริโภคซึ่งอธิบายว่าเหตุใดชื่อธุรกิจจึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดลูกค้า ในฐานะผู้บริโภคเราอาจคิดว่าแบรนด์ที่เรารักและเลือกได้รับอิทธิพลจากปัจจัยวัตถุประสงค์เช่นผลิตภัณฑ์หรือบริการของแบรนด์ แต่การวิจัยชี้ให้เห็นว่ามีปัจจัยมากกว่านั้น การศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก³ ซึ่งเป็นเทคนิคที่วัดการทํางานของสมอง แสดงให้เห็นว่าเมื่อต้องพิจารณาแบรนด์ต่าง ๆ ผู้บริโภคจะใช้อารมณ์เป็นหลักมากกว่าการใช้ข้อมูลเช่นคุณสมบัติของแบรนด์และข้อเท็จจริงอื่น ๆ⁴

ในขณะที่ภาษาส่วนใหญ่ถูกประมวลผลที่สมองฝั่งซ้ายซึ่งเป็นสมองข้างที่มีเหตุผลและมีสติมากกว่า ชื่อแบรนด์ยังเชื่อมต่อกับสมองข้างขวาซึ่งควบคุมอารมณ์ของเรา⁵ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าในการสร้างการมีส่วนร่วมที่ลึกซึ้งกับลูกค้า ชื่อแบรนด์ควรดึงดูดอารมณ์ของพวกเขามากกว่าเรื่องเหตุผลหรือตรรกะ นักวิจัยการตลาดที่ Executive Solutions⁶ พบว่าอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับการยอมรับ ความสามารถ และความรับผิดชอบมีอิทธิพลมากที่สุดในการตัดสินใจซื้อ

นอกจากจิตวิทยาแล้วยังมีข้อควรพิจารณาเชิงกลยุทธ์อีกมากมายที่จะนํามาในการตัดสินใจตั้งชื่อของคุณด้วย

การที่ลูกค้าสามารถจดจำแบรนด์ได้ดูเหมือนจะเป็นปัจจัยหลักที่ชัดเจนที่สุด ในตลาดที่มีผู้คนพลุกพล่านชื่อแบรนด์ของคุณสามารถเป็นเสมือนเบ็ดที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณถูกจดจําเหนือคู่แข่งที่คล้ายคลึงกัน

ฉันพูดคุยกับ Jamie Chadwick⁸ นักกลยุทธ์แบรนด์ซึ่งเปรียบเทียบราคาในตลาดประกันที่มีความอิ่มตัวสูงเพื่อแสดงให้เห็นถึงประเด็นนี้ว่า "เกือบทุกแบรนด์ ใช้การเปรียบเทียบอย่างใดในชื่อแบรนด์ของพวกเขา ในสหราชอาณาจักรสองแบรนด์ที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมเดียวกันใช้ชื่อแบรนด์ในรูปแบบที่แตกต่างกันมาก เช่น Confused.com⁹ สร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ของตัวเอง ผ่านการเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับประเด็นหลัก โดยนําเรื่องความวิตกกังวลมาใช้และเปลี่ยนเป็นคุณค่าของแบรนด์ ในขณะที่ Compare the Market¹⁰ ทําให้ทุกคนสับสนโดยเรียกตัวเองว่า Compare the Meerkat นี่คือสองสิ่งที่ทำควบคู่ไปกับการจ่ายค่าโฆษณา ประการแรกมันเป็นการสร้างการรับรู้ในอันดับต้น ๆ ในตลาดที่มีคู่แข่งหลายรายและประการที่สองมันช่วยลดค่าใช้จ่ายในการค้นหาชื่อแบรนด์ของพวกเขาที่สูงเกินจริง จากตัวอย่างนี้เห็นได้ว่าชื่อแบรนด์เป็นมากกว่าชื่อมันเป็นข้อได้เปรียบทางการตลาดที่สามารถใช้ประโยชน์ได้"

ตัวอย่างที่ Jamie Chadwick อ้างถึงแสดงให้เห็นว่าชื่อแบรนด์สามารถเปลี่ยนธุรกิจภายในอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างน่าเบื่อให้กลายเป็นสิ่งที่สนุกที่กระตุ้นการรับรู้และจดจําแบรนด์ได้

ชื่อธุรกิจที่เหมาะสมสามารถช่วยกําหนดภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ของคุณได้ ดังนั้นคุณเลือกชื่อแบบไหนระหว่างชื่อที่สนุก ดูจริงจัง หรือเลือกชื่อที่น่าจดจํา ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการที่จะช่วยคุณตัดสินใจ:

ความประทับใจครั้งแรก

Apple อาจดูเหมือนเป็นการเลือกชื่อมาแบบสุ่ม ๆ สําหรับบริษัทเทคโนโลยี และแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังชื่อดูเหมือนจะเป็นโอกาส สตีฟจ็อบส์กล่าวว่าเขาเลือกชื่อหลังจากที่เขากลับมาจากฟาร์มแอปเปิ้ลและคิดว่าชื่อนี้ฟังดู "สนุกร่าเริงและไม่ดูข่มขู่" ¹¹ ซึ่งทําให้ชื่อบริษัท Apple แตกต่างจากชื่อตามแบบแผนเดิม ๆ ของบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันทันที เพราะมันแสดงถึงการเป็นแบรนด์ใหม่ที่มีแนวคิดใหม่ แถมยังเสริมด้วยสโลแกนของบริษัทว่า 'Think Different' อีกด้วย

กําหนดภาพรวมของแบรนด์

ชื่อที่คุณเลือกสําหรับธุรกิจของคุณจะกําหนดภาพรวมในการสื่อสารทั้งหมดของคุณ

แบรนด์สมูทตี้ Innocent¹² ผ่านการเปลี่ยนชื่อหลายครั้งก่อนที่จะตกลงใช้ชื่อปัจจุบัน¹³ แต่นับว่าเป็นเรื่องดีเพราะตอนนี้ชื่อที่พวกเขาใช้สามารถสะท้อนค่านิยมด้านจริยธรรมของผลิตภัณฑ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งเรียบง่าย มีสุขภาพดีและปราศจากสารเติมแต่ง ภาพรวมที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์ และการสื่อสารทางการตลาดของแบรนด์ เป็นภาษาพูดง่าย ๆ และดูขี้เล่น อีกทั้งโลโก้ของพวกเขาก็ดูเหมือนภาพวาดของเด็ก เมื่อองค์ประกอบเหล่านี้มารวมกันทำให้เกิดเป็รแบรนด์ที่ดูสนุกสนานและเน้นความบริสุทธ์ของสูตรอาหาร

เป็นที่น่าจดจํา

การเลือกชื่อที่โดดเด่นจะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคและเป็นที่นึกถึงเมื่อผู้บริโภคต้องการซื้อ เช่น Elon Musk ได้แหกกฎเกณฑ์ในการตั้งชื่อ ใช้ชื่อบริษัทล่าสุดของเขาว่า The Boring Company¹⁴ อาจไม่น่าแปลกใจที่กูรูด้านการประชาสัมพันธ์อย่าง Musk จะเลือกชื่อที่ดึงดูดความสนใจ แต่จริงๆแล้วชื่อนี้มีความหมายแฝง (ที่ดูถูกตัวเองหน่อย ๆ) อยู่เบื้องหลัง เพราะบริษัทนี้เป็นบรัษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีวัตถุประสงค์เพื่อขุด เช่นใช้การ 'เจาะ (bore)' ระบบอุโมงค์ขนาดใหญ่สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ความเร็วสูง

อารมณ์ขันสามารถสร้างความน่าสนใจให้กับชื่อธุรกิจของคุณได้อย่างแน่นอน เพียงแต่คุณต้องดูให้แน่ใจว่ามันใช้งานได้ถูกบริบทและเหมาะสมหากแบรนด์ของคุณเติบโตขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

ใช้การเล่าเรื่องเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

Pig & Hen15 เป็นธุรกิจที่เกิดในอัมสเตอร์ดัมโดยผลิตกําไลทํามือที่ทําจากเชือกเรือจริงและเหล็กเกรดเดียวกับที่ใช้ทางทะเล ชื่อของแบรนด์ได้รับแรงบันดาลใจจากประเพณีการแล่นเรือใบแบบเก่าตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1600 โดยนักเดินเรือมักจะเขียนรอยสักของหมูและไก่ไว้บนเท้าเพื่อความโชคดี เนื่องจากลังที่ใช้บรรจุสัตว์เหล่านี้มักเป็นสิ่งของชิ้นเดียวที่เหลืออยู่หลังจากเรืออับปาง การเล่าเรื่องนี้ดึงดูดลูกค้าโดยสร้างภาพของการผจญภัยในทะเลและทําให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

จดจําตลาดเป้าหมายของคุณ

เมื่อหลายปีก่อน Apple ได้เปิดตัวแคมเปญอันโด่งดังที่ชื่อว่า "Get a Mac" โดยมีโฆษณาชุดหนึ่งที่แสดงให้เห็นผู้ชายสองคนที่มีบุคลิกที่แตกต่างกัน คนหนึ่งเป็นฮิปสเตอร์หนุ่มที่แนะนําตัวเองโดยพูดว่า "สวัสดีฉันคือ Mac" และอีกคนคือเด็กเนิร์ดรุ่นพี่ที่รับบทเป็น PC ข้อความนี้สื่อเป็นนัยว่าคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้บ่งบอกได้ว่าคุณเป็นคนแบบไหน ซึ่งได้ผลดีเพราะสร้างขึ้นจากแนวคิดที่ว่าความหมายและคุณค่าของแบรนด์คือบทบาทในการช่วยให้ผู้บริโภคสร้างและสร้างตัวตนของตนเอง

คุณสามารถใช้แนวคิดนี้ให้เป็นประโยชน์กับคุณได้เช่นกัน การวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้คนมักมีความเชื่อมโยงเชิงบวกกับแบรนด์ที่สะท้อนภาพลักษณ์ที่สอดคล้องกับตัวตนของตนเอง¹⁷

ดังนั้นเมื่อตั้งชื่อธุรกิจของคุณให้จําว่าลูกค้าเป้าหมายของคุณเป็นใคร พวกเขาปรารถนาอะไร อะไรเป็นแรงบันดาลใจของพวกเขา การเลือกใช้คำที่สะท้อนถึงลักษณะบุคลิกภาพที่พวกเขาระบุหรือต้องการเลียนแบบจะทำให้แบรนด์ของคุณสะท้อนถึงลูกค้าเป้าหมายของคุณและสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเชื่อมโยง

อย่าลืมนึกถึงการทำ SEO

หนึ่งในเหตุผลที่ Amazon เป็นที่รู้จักเพราะเปิดตัวในช่วงเวลาที่เว็บไซต์มักจะแสดงรายการตามตัวอักษร¹⁸ อัลกอริธึมของหน้าผลการค้นหา (SERP) ได้รับการพัฒนาอย่างมากตั้งแต่นั้นมา ดังนั้นการจัดลำดับความสำคัญของอัลกอริทึมจึงควรได้รับการปรับปรุงเช่นกัน อันที่จริงแล้ว นี่อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดเมื่อเลือกชื่อธุรกิจ เนื่องจากช่วยให้ลูกค้าพบคุณได้ง่ายในการค้นหา

ประการแรกสิ่งสําคัญคือต้องเลือก ชื่อบริษัทที่มีความแตกต่างและไม่ซ้ำกัน หากใช้คำทั่วไปเกินไป คุณจะต้องแข่งขันกับธุรกิจอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมของคุณ รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่มีชื่อคล้ายกันหรือทีคำใดคำหนึ่งซ้ำกันด้วย การลองค้นหาแบบเร็ว ๆ บน Google จะช่วยให้คุณทราบว่าชื่อที่คุณเลือกนั้นเหมาะสมหรือไม่หรือคุณควรกลับไปคิดใหม่

ผู้บริโภคจะรู้จักสะกดชื่อแบรนด์โดยใช้สัญชาตญาณหรือไม่ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาว่าคำนั้นสามารถแปลเป็นภาษาอื่นได้อย่างไร หากคุณต้องการเติบโตไปในระดับนานาชาติ ชื่อแบรนด์ที่คุณพอใจในตอนแรกอาจมีความหมายที่ไม่เหมาะสมในภาษาอื่น ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบความหมายของชื่อด้วย

สุดท้ายอย่าลืมตรวจสอบว่าชื่อโดเมนเว็บไซต์ที่คุณต้องการยังว่างอยู่หรือไม่ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopify¹⁹ มีเครื่องสร้างชื่อธุรกิจฟรี20 ที่จะแนะนำชื่อตามคำที่คุณใช้เพื่ออธิบายธุรกิจของคุณ และสร้างชื่อโดเมนที่พร้อมใช้งานโดยอัตโนมัติภายในไม่กี่วินาที เป้าหมายของเครื่องมือนี้คือเพื่อทำให้ง่ายและให้มีที่อยู่เว็บไซต์เดียวกันกับชื่อบริษัทของคุณ

สุดท้ายนี้

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อแบรนด์จะไม่ถูกจํากัดเมื่อธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น คุณไม่ควรจํากัดตัวเองหากคุณต้องขยายกิจการของคุณให้ไกลออกไป ตัวอย่างเช่นใช้ชื่อว่า Nana's Little Bakery มากกว่า Nana's Cupcakes หากคุณคิดว่าคุณอาจขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของคุณในอนาคต Weight Watchers ได้เอาชนะอุปสรรคดังกล่าวด้วยการรีแบรนด์เป็น WW²¹ เพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนโฟกัสจากการลดน้ำหนักไปสู่การดูแลสุขภาพ และในปี 2019 Dunkin' Donuts²² ได้เปลี่ยนชื่อทางการค้าอย่างเป็นทางการเป็น Dunkin' ซึ่งเหมาะสมกว่าเนื่องจากปัจจุบันกาแฟและเครื่องดื่มอื่นๆ คิดเป็น 60% ของยอดขายทั้งหมด²³

เมื่อคุณพิจารณาปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ ความซับซ้อนในการเลือกชื่อธุรกิจของคุณก็จะชัดเจนขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำภาพรวมให้ขึ้นใจ ฉันได้พูดคุยกับ Steve Harvey ผู้ร่วมก่อตั้งเอเจนซี่ด้านครีเอทีฟ Fabrik Brands²⁴ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าพัฒนากลยุทธ์แบรนด์ การออกแบบเว็บไซต์ และการสื่อสารทางการตลาด เขาอธิบายว่า “เช่นเดียวกับส่วนประกอบอื่นๆ ของแบรนด์ แต่ละส่วนก็สามารถทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ในท้ายที่สุด ทรัพย์สินของแบรนด์ทุกชิ้น ตั้งแต่ชื่อ โลโก้ ไปจนถึงสีที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของคุณ จะต้องทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย”

“การเลือกชื่อที่มีรากฐานมาจาก DNA ของแบรนด์นั้นมีความสำคัญ ต่างจากชื่อของมนุษย์ ซึ่งสามารถตีความความหมายได้หลากหลายเมื่อคุณรู้จักใครสักคน ชื่อบริษัทมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ข้อมูลทันทีและสร้างการรับรู้ที่ผู้คนมีต่อแบรนด์นั้น ชื่อที่เหมาะสมจะสะท้อนถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณทันทีและแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณอยู่ในระดับเดียวกัน”

สำหรับเจมี่ เขาเชื่อว่าการตั้งชื่อแบรนด์ สามารถสรุปได้ด้วยสูตรง่ายๆคือ “กำหนดสิ่งที่คุณกำลังทำและสิ่งที่คุณยืนหยัด จากนั้นคิดถึงชื่อนั้น สิ่งนั้นจะไหลออกมาเองตามธรรมชาติ”

พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของ DHL วันนี้ เพื่อค้นหาวิธีอื่นๆ ในการช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต

1 - We Sell Carpets

2 - Google name origin, Wikipedia, 2020

3 - Functional magnetic resonance imaging, Wikipedia, 2020

4 - Psychology Today, February 2013

5, 6, 7 - The Name Game: The Delicate Psychology Behind Multi-Million Dollar Brand Names, Medium, July 2018

8 - Jamie Chadwick, Strategy Director, Black Stump Strategy

9 - Confused.com

10 - Compare the Market

11 - Steve Jobs, Branding Strategy Insider, November 2011

12 - Innocent

13 - Innocent blog, September 2006