ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารชั้นนําในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเชี่ยวชาญด้านสินค้าเกษตรและอาหารทะเล ผลิตภัณฑ์อาหารไทยเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างยาวนาน บางกอกโพสต์รายงานว่าตลาดหลักของผลิตภัณฑ์อาหารเหล่านี้มีประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างกัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม ซึ่งคิดเป็น 28.4% และญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งนำเข้าสินค้าเหล่านี้จากไทยคิดเป็น 13.9%
ประเทศไทยยังเป็นที่รู้จักในด้านอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารขั้นสูง ทําให้สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มได้ ธุรกิจแปรรูปอาหารไทยส่วนใหญ่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม คิดเป็น 97% ของอุตสาหกรรม ตัวเลขนี้เป็นข้อมูลจากการศึกษาที่ทำในปี 2019 ในขณะที่ 3% ของผู้ผลิตอาหารแปรรูปเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ตามรายงานของศูนย์เทคโนโลยีอาหารและปุ๋ยประจําภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก
เนื่องจากศักยภาพในการขายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสู่ตลาดโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางจึงต้องเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับโอกาสในการส่งออกไปต่างประเทศและเรียนรู้ข้อจํากัดในการส่งออก เพื่อให้ทันเทรนด์การบริโภคของโลก ในบทความนี้ เราให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารชั้นนําที่ส่งออกจากประเทศไทย และทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการส่งสินค้าระหว่างประเทศ
ผลิตภัณฑ์อาหารติดอันดับส่งออก
ประเทศไทยมีชื่อเสียงในด้านอาหารที่มีสีสันและมีรสชาติจัดจ้าน ประเทศไทยส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารที่หลากหลายไปทั่วโลก รวมถึงอาหารกระป๋อง อาหารแห้ง และอาหารแปรรูป อย่างไรก็ตาม แม้อาหารเหล่านี้จะผลิตโดยมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานขึ้น แต่ผู้ส่งออกก็ควรคำนึงถึงการจัดส่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเพื่อรักษาคุณภาพของสินค้า การขนส่งระหว่างประเทศอย่างเร่งด่วนจึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ และนี่คือผลิตภัณฑ์อาหารส่งออก 10 อันดับแรกจากประเทศไทยที่เหมาะสําหรับการขนส่งไปต่างประเทศแบบเอ๊กซ์เพรส!
1. สับปะรดกระป๋อง
ผลไม้อย่างสับปะรดผ่านการแปรรูป และบรรจุกระป๋องเพื่อรักษารสชาติ เนื้อสัมผัส และคุณค่าทางโภชนาการไว้ การส่งออกแบบเร่งด่วนจึงทำให้คุณมั่นใจได้ว่าสับปะรดกระป๋องจะถึงผู้รับแบบความสดใหม่และคงรสชาติของประเทศเมืองร้อนได้ไม่เปลี่ยนแปลง
2. ปลาทูน่ากระป๋อง
ปลาทูน่าถูกแปรรูปและบรรจุกระป๋องเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและทําให้สะดวกในการบริโภค การเลือกใช้การจัดส่งไปต่างประเทศแบบเร่งด่วนเป็นสิ่งจําเป็นเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของรสชาติและเนื้อสัมผัส รวมทั้งรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ด้วย
3. อาหารทะเลกระป๋อง
นอกจากปลาทูน่าแล้ว ไทยยังส่งออกอาหารทะเลกระป๋องหลากหลายชนิด เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล และกุ้ง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ผ่านกรรมวิธีและปิดผนึกในกระป๋องเพื่อให้มีอายุการใช้งานยาวนาน สิ่งสําคัญคือต้องจัดส่งผลิตภัณฑ์อาหารเหล่านี้ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอุณหภูมิสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารทะเล
4. กุ้งแห้ง
กุ้งแห้งเป็นส่วนผสมยอดนิยมในอาหารไทยต่างๆ กุ้งแห้งของไทยเป็นที่ต้องการในครัวโลก เพราะโดดเด่นในด้านรสชาติและคุณภาพ การจัดส่งไปต่างประเทศที่รวดเร็วจะช่วยป้องกันการดูดซึมความชื้น ซึ่งอาจนําไปสู่การเน่าเสียและสูญเสียรสชาติ
5. เครื่องเทศแห้ง
ประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอมและมีรสชาติ เช่น พริกแห้ง ตะไคร้ ข่า และใบมะกรูด เครื่องเทศเหล่านี้ถูกทําให้แห้งเพื่อเพิ่มอายุการเก็บรักษาและทําให้เหมาะสําหรับการส่งออก การขนส่งด่วนมีความสําคัญต่อการรักษาประสิทธิภาพกลิ่นและรสชาติ
6. เส้นหมี่
เส้นก๋วยเตี๋ยวไทย เช่น วุ้นเส้นและข้าวแท่ง เป็นส่วนผสมหลักในอาหารเอเชียหลายชนิด เส้นก๋วยเตี๋ยวเหล่านี้ผ่านกรรมวิธีและทําให้แห้งเพื่อความสะดวกและอายุการเก็บรักษาที่ยาวนาน การจัดส่งบะหมี่เหล่านี้ช่วยให้ยังคงสภาพสมบูรณ์และพร้อมใช้งานในอาหารต่างๆ
7. พริกแกงสําเร็จรูป
พริกแกงไทยมีให้เลือกทั้งแบบผงหรือแบบน้ำพริก เป็นสารปรุงแต่งรสยอดนิยมในอาหารไทยและอาหารนานาชาติ น้ำพริกเหล่านี้ถูกแปรรูปและบรรจุเพื่อการส่งออก การขนส่งที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสําคัญในการรักษาความสด กลิ่นหอม และรสชาติที่แท้จริงของพริกแกง
8. กะทิผง
ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกกะทิผงรายใหญ่ ซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกกว่ากะทิกระป๋องหรือกะทิสด ผงกะทิต้องการการจัดส่งทันเวลาเพื่อป้องกันการสัมผัสกับความชื้นและรักษาคุณภาพและเนื้อครีม
9. ผงชาไทย
ผงชาไทยใช้สำหรับชงชาเย็นไทยที่ขึ้นชื่อนั้นเป็นส่วนผสมของใบชาดําและเครื่องเทศ มีการแปรรูปและบรรจุเพื่อการส่งออก การจัดส่งถึงมือผู้รับภายในเวลาอันสั้นเป็นสิ่งสําคัญในการสร้างความมั่นใจว่าส่วนผสมของชาจะเข้าถึงผู้บริโภคด้วยรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์
10. ของทานเล่นประเภทผลไม้แปรรูป
ประเทศไทยมีผลไม้แปรรูปหลากหลายชนิดสำหรับนำไปรับประทานเป็นของทานเล่น เช่น มะม่วงอบแห้ง ขนุนทอดกรอบ และกล้วยทอดชิ้นเล็กๆ แม้ว่าขนมเหล่านี้จะถูกเตรียมและบรรจุหีบห่อเพื่อการส่งออก แต่การจัดส่งด่วนสามารถทำให้ผู้รับมั่นใจได้ว่าของว่างกรุบกรอบเหล่านี้จะคงรสชาติ เนื้อสัมผัส และอายุการเก็บรักษาไว้เมื่อมาถึงประเทศปลายทาง
สินค้าใดบ้างที่ถูกจํากัดหรือห้ามส่งออกหรือนําเข้าในประเทศไทย
โดยทั่วไปประเทศไทยมีรายการสิ่งของต้องห้ามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่อนุญาตให้นําเข้าหรือส่งออก ตามข้อกำหนดของกรมศุลกากรของไทย ได้แก่ สินค้าลอกเลียนแบบ ธนบัตรหรือเหรียญปลอม และสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าที่ระบุไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกหรือนำเข้าได้ แต่มีข้อจํากัด จำเป็นต้องมีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ศุลกากรอนุญาตให้นำสินค้าขนส่งเข้าสู่พรมแดนของประเทศปลายทาง ตัวอย่างเช่น หากคุณวางแผนที่จะส่งออกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ไปยังออสเตรเลีย คุณต้องแน่ใจว่าคุณได้ตรวจสอบเงื่อนไขการนำเข้าของ Biosecurity Import Condition system (BICON) เพื่อเช็คว่าผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นไปตามมาตรฐานสุขภาพสัตว์ของออสเตรเลียหรือไม่ และคุณต้องได้รับใบอนุญาตสำหรับการส่งออกหรือไม่
แล้วความท้าทายในการจัดส่งสินค้าอาหารจากไทยไปต่างประเทศคืออะไร
เมื่อพูดถึงการจัดส่งผลิตภัณฑ์อาหารจากไทยไปต่างประเทศ ธุรกิจส่งออกอาจเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ได้แก่
- การปฏิบัติตามกฎระเบียบ: หากคุณต้องการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารของคุณไปยังประเทศอื่น คุณต้องผ่านกฎระเบียบที่เข้มงวดของประเทศไทยเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหาร บรรจุภัณฑ์และการติดฉลาก
- โลจิสติกส์: ที่ตั้งของประเทศไทยอาจทําให้การจัดส่งผลิตภัณฑ์อาหารไปยังตลาดหลักในต่างประเทศเป็นเรื่องท้ายทาย เพราะค่าขนส่งสูงและใช้เวลานาน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ผู้ส่งออกมีตัวเลือกการขนส่งไปต่างประเทศที่ใช้เวลาสั้นลงโดยขนส่งทางอากาศ
- การควบคุมอุณหภูมิ: ผลิตภัณฑ์อาหารต้องการการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพและความปลอดภัย ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนและชื้นของประเทศไทย อาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้ประกอบการในการจัดเก็บผลิตภัณฑ์ในภาชนะที่มีอุณหภูมิที่เหมาะสม
- ขั้นตอนศุลกากร: พิธีการทางศุลกากรอาจเป็นกระบวนการที่ทรหดและซับซ้อน คุณจึงควรเช็คให้แน่ใจว่าได้ศึกษากฎระเบียบ ศุลกากรและเตรียมเอกสารสำหรับการส่งของไปต่างประเทศทั้งหมดที่จําเป็น เพื่อให้ส่งออกสินค้าได้สำเร็จและเลี่ยงความล่าช้าหรือค่าธรรมเนียมที่อาจมีเพิ่มเติม
ข้อกําหนดและเอกสารศุลกากรที่ควรเตรียมก่อนส่งออกจากไทย
ก่อนส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารจากไทยไปยังประเทศปลายทางต่างๆ คุณจะต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้
- ใบขนสินค้าขาออก (Export Declaration) เอกสารนี้เป็นข้อบังคับจากกรมศุลกากรไทยสําหรับสินค้าส่งออกทั้งหมด และต้องมีรายละเอียดผู้ส่งออก ผู้นําเข้า ผลิตภัณฑ์ และการจัดส่ง
- ใบกํากับสินค้า (Commercial invoice) เอกสารนี้มีรายการผลิตภัณฑ์อาหารทั้งหมดที่ส่งออก มูลค่าและรายละเอียดที่สําคัญอื่นๆ เพื่อให้ศุลกากรสามารถกําหนดอากรและภาษีที่ต้องชำระได้
- รายการบรรจุภัณฑ์ (Packaging list) เอกสารนี้ให้รายละเอียดที่ครอบคลุมเกี่ยวกับของบรรจุภัณฑ์ส่งออก เพื่อให้ศุลกากรสามารถตรวจสอบได้ว่าการจัดส่งตรงกับข้อมูลในใบขนสินค้าขาออกและใบกํากับสินค้าหรือไม่
- ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading) สิ่งนี้ทําหน้าที่เป็นสัญญาระหว่างผู้จัดส่งและผู้ขนส่งซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดส่ง
- ใบรับรองแหล่งกําเนิดสินค้า (Certificate of origin) เอกสารนี้ตรวจสอบที่มาของสินค้าที่ส่งออก และเป็นข้อกําหนดของประเทศผู้นําเข้าเพื่อพิจารณาว่าสินค้านั้นมีสิทธิ์ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรหรือไม่
- ใบอนุญาตส่งออก (Export licence) สิ่งนี้จําเป็นหากคุณส่งออกสินค้าที่ถือว่าละเอียดอ่อนหรือมีกลยุทธ์ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหาร ไม่ว่าจะแปรรูปหรือไม่แปรรูป คุณสามารถขอรับใบอนุญาตนี้จากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
- เอกสารที่จําเป็นอื่นๆ เนื่องจากประเทศอื่นๆ อาจมีข้อบังคับสําหรับสินค้านําเข้า คุณต้องพิจารณาถึงเอกสารที่คุณจะต้องเตรียมก่อนส่งออกสินค้าของคุณ เช่น ใบรับรองสุขอนามัยพืชหรือใบรับรองการวิเคราะห์สารเคมีสําหรับสินค้าเกษตร