#คําแนะนําเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซ

อัพเดทเทรนด์ล่าสุดสำหรับผู้ประกอบการไทย รับตลาดแฟชั่นของโลก

facebook sharing button
twitter sharing button
linkedin sharing button
Smart Share Buttons Icon Share
 อัพเดทเทรนด์ล่าสุดสำหรับผู้ประกอบการไทย รับตลาดแฟชั่นของโลก

แฟชั่นไม่ได้มีแต่เสื้อผ้าผู้หญิง แต่ยังครอบคลุมธุรกิจอื่นๆ เช่น กระเป๋า รองเท้า แอคเซสเซอรี่ ผ้าที่ใช้ทำเครื่องแต่งกาย การทำตลาด กระบวนการขนส่ง และการกระจายสินค้าระหว่างประเทศ อุตสาหกรรมแฟชั่นของโลกมีมูลค่ารวมสูงกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2% ของ GDP โลก และสร้างอาชีพให้คนกว่า 60 ล้านคน และปัจจุบันทิศทางของอุตสาหกรรมแฟชั่นกำลังมุ่งหน้าไปสู่ตะวันออก

ในฐานะผู้นำด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ และลอจิสติกพาร์ทเนอร์ของดีไซเนอร์และแบรนด์ชั้นนำ DHL Express จะพาคุณไปดูเทรนด์ล่าสุดของอุตสาหกรรมแฟชั่น ผู้ส่งออก-ผู้นำเข้า และเจ้าของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น SME หรือร้านเสื้อผ้าออนไลน์ที่ส่งเสื้อผ้าไปขายต่างประเทศ ปรับตัวได้ทันกระแสการเปลี่ยนแปลง และพร้อมสำหรับการขยายตลาดและเพิ่มยอดขายภายหลังโควิด เราจะช่วยให้การส่งเสื้อผ้าไปต่างประเทศราบรื่น สะดวกสบาย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

 

พบกับตลาดใหญ่ของอุตสาหกรรมแฟชั่นโลก ประเทศจีน!

เมื่อก่อน ตลาดหลักของอุตสาหกรรมแฟชั่นอยู่ในยุโรปและอเมริกาเหนือมาโดยตลอด จนปี 2018 ยอดขายเสื้อผ้าและรองเท้ากว่าครึ่งมาจากตลาดเกิดใหม่ในเอเชียแปซิฟิกและละตินอเมริกา นอกจากจีนจะเป็นผู้ส่งออกเสื้อผ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกแล้ว ยังเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่อีกด้วย เพราะจีนมีการเติบโตของ GDP และเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ใครๆ ก็อยากส่งเสื้อผ้าไปขายที่จีน ทำให้ปัจจุบันเอเชียแปซิฟิกกลายเป็นผู้ซื้อสินค้าแฟชั่นอันดับหนึ่งของโลก โดยมียุโรปเป็นอันดับสองมีส่วนแบ่งตลาดที่ 38% และ 27% ตามลำดับ

จากข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จีนเป็นตลาดส่งออกเสื้อผ้าที่สำคัญของไทย ในเดือน ม.ค.-ส.ค. ปี 2019 ไทยส่งออกสินค้ากลุ่มเครื่องแต่งกายคิดเป็นมูลค่า 1,715.72 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 3.52% จากปี 2018

5 อันดับแรกที่คนไทยส่งเสื้อผ้าไปขายมีจีนเป็นหนึ่งในนั้น และยังมีอเมริกา ญี่ปุ่น เบลเยียม และอังกฤษ โดยจีนมีอัตราการเติบโตสูงสุดถึง 28.61%1 ดังนั้น ห้ามมองข้ามประเทศจีนเป็นอันขาด ถ้าคุณเป็นผู้ขายที่ต้องการส่งเสื้อผ้าไปต่างประเทศ​

 

หัวใจคือความเร็ว

สิ่งที่ขับเคลื่อนให้ธุรกิจฟาสต์แฟชั่นเติบโตสูงถึง 20% ในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมา คือการเกิดขึ้นของดิจิทัลแคทวอล์ค แฟลชเซลล์ และปุ่มสั่งซื้อสินค้าบนโซเชียลมีเดีย ทำให้แบรนด์ต่างหาทางร่นระยะเวลาในการนำเสื้อผ้าที่จัดแสดงออกวางขายให้ได้เร็วที่สุด รวมถึงการส่งก็ต้องเร็วด้วย

ยกตัวอย่าง แบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์อย่าง Gucci ที่เพิ่มบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้านภายใน 1 ชั่วโมงครึ่ง ส่วน Burberry ทำให้ผู้บริโภคซื้อหาสินค้าได้ทันทีหลังจากที่เห็นนางแบบใส่เดินบนแคทวอล์ค และถ้าหากคุณกำลังส่งเสื้อผ้าไปต่างประเทศ​ การวางขายและจัดส่งเพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าที่ต้องการอย่างรวดเร็วอย่างใจคิด จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์ ยิ่งถ้าส่งไปให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศได้เร็ว ยิ่งทำให้ลูกค้าชื่นชอบแบรนด์ของคุณมากเท่านั้น

การจัดส่งต้องเชื่อถือได้

ความง่ายและค่าใช้จ่ายในการขนส่งเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อการสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ของนักช้อปออนไลน์ (50%) ส่วนนักช้อปกว่า 1 ใน 3 คำนึงถึงความง่ายและค่าใช้จ่ายในการคืนสินค้า การส่งสินค้าไปถึงร้านค้าล่าช้าแค่สัปดาห์เดียวอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรได้อย่างมหาศาล เนื่องจากสินค้าแฟชั่นมีวงจรชีวิตสั้นแค่ 8 สัปดาห์ ดังนั้นถ้ามีลอจิสติกพาร์ทเนอร์ที่ไว้ใจได้อย่าง DHL Express ก็ช่วยลดปัญหา และให้คุณส่งสินค้าจากทุกที่ไปสู่ผู้รับในทุกประเทศทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

 

ใช้เทคโนโลยีอย่าง AI เข้ามาช่วย

ลองมองหาตัวช่วยอย่างเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) ถ้าธุรกิจของคุณกำลังเติบโต เพราะ AI ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถแก้ปัญหาโอเวอร์สต็อก ซึ่งคิดเป็นเม็ดเงินที่ธุรกิจค้าปลีกต้องสูญเสียไปในปี 2015 ได้ถึง 472 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ AI ยังมีประโยชน์ในเรื่องเหล่านี้ด้วย 

·      ลดการคืนสินค้า: ร้านค้าบนออนไลน์มีปัญหาการคืนสินค้ามากกว่าร้านค้าปกติเฉลี่ย 20% บริษัทอีคอมเมิร์ซสัญชาติเยอรมันชื่อ Otto ได้นำ AI เข้ามาใช้ เพื่อคาดการณ์สินค้าที่จะขายออกไปในอีก 1 เดือนข้างหน้า พบว่า AI ให้ความแม่นยำสูงถึง 90% และช่วยให้บริษัทลดปัญหาโอเวอร์สต็อกลงได้ 20%

·      คาดการณ์สินค้าขายดี: AI วิเคราะห์ได้ว่าสินค้ารายการไหนกำลังเป็นที่ต้องการของสื่อและสไตลิสต์ ช่วยให้บริษัทสามารถคาดการณ์ได้ว่าสินค้าแบบไหนจะกลายเป็นสินค้าขายดี ทำให้ควบคุมกระบวนการผลิต และลดความสิ้นเปลืองที่เกิดจากการผลิตมากเกินไปได้

·      ลดการก่อมลพิษ: AI ลดความผิดพลาดได้ถึง 50% จึงช่วยลดการสิ้นเปลือง และช่วยส่งเสริมความยั่งยืน

 

รีไซเคิลต้องมี

ผู้บริโภคมีแนวโน้มชื่นชอบแบรนด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คนยุคมิลเลนเนียล 66% อยากซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ยั่งยืน การลดขยะเสื้อผ้าจึงไม่เพียงแต่ดีต่อโลก แต่ยังดีสำหรับธุรกิจด้วย ปัจจุบัน แบรนด์แฟชั่น 42% กล้าเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับซัพพลายเออร์เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในสายตาผู้บริโภค และเพื่อส่งเสริมวิธีปฏิบัติที่ยั่งยืน ใครที่ก้าวตามเทรนด์ไม่ทันจะถูกคู่แข่งทิ้งห่าง โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษ ซึ่งผู้บริโภคมักจะพิจารณาจริยธรรมของแบรนด์เวลาที่ตัดสินใจซื้อสินค้า

รู้จักอัพไซเคิล เทรนด์สุดคูลในธุรกิจแฟชั่น

เสื้อผ้าที่เก่าขาดหรือล้าสมัยสุดท้ายมักจะไปลงเอยที่ภูเขาขยะ DHL Express Ukraine ตระหนักถึงปัญหานี้ จึงได้จับมือกับแฟชั่นดีไซเนอร์ชาวยูเครน Yuliya Postushna สร้างสรรค์แคมเปญที่กระตุ้นการตระหนักรู้ด้วยการอัพไซเคิลแฟชั่นจากเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว โดยนำยูนิฟอร์มที่เก่าและขาดแล้วมาสร้างสรรค์ใหม่ให้เป็นเสื้อผ้าแฟชั่น และจัดแสดงใน Ukraine Fashion Week เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา DHL Express มองว่าการนำชุดยูนิฟอร์มมารีไซเคิลอย่างรับผิดชอบและปลอดภัยนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวที่จะช่วยปกป้องแบรนด์ พนักงาน และสิ่งแวดล้อมในระยะยาวได้

พฤติกรรมของลูกค้าคุณเป็นอย่างไร

DHL Express สำรวจความเห็นของผู้บริโภค 6,000 คน จากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย อิตาลีและญี่ปุ่น เกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าและเหตุผลในการตัดสินใจซื้อ พบว่าผู้บริโภคชาวอังกฤษให้ความสำคัญกับการผลิตอย่างมีจริยธรรมมากเป็นพิเศษ ในขณะที่สาวๆ ญี่ปุ่นดูคุณภาพผลิตภัณฑ์เป็นอันดับแรก ผู้ตอบแบบสอบถาม 15% อ่านฉลากเพื่อดูว่าเสื้อผ้าที่ซื้อผลิตขึ้นที่ไหน โดยชาวอิตาลีเป็นนักช้อปที่อ่านฉลากมากที่สุดถึง 41%

นอกจากนี้ผู้บริโภคยังอยากรู้ด้วยว่าห่วงโซ่การขนส่งสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบ้างหรือเปล่า หนึ่งในสี่ของผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่าการที่แรงงานได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ และหนึ่งในห้าของนักช้อปชาวออสเตรเลียใส่ใจเรื่องคาร์บอนฟุตพรินท์

 

คู่มือการแพ็คเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น

ขอแนะนำทิปสำหรับการส่งเสื้อผ้าไปต่างประเทศให้ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น เนื่องจากสินค้าแฟชั่นมีความหลากหลาย ก่อนอื่น เราแนะนำให้คุณเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับประเภทสินค้า และแพ็คสินค้าอย่างถูกต้อง โดยทำตามคู่มือต่อไปนี้

เสื้อผ้า

ใช้ซอง (flyer) ของ DHL Express ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับบรรจุเสื้อผ้า แต่ถ้าต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ของตัวเอง ต้องดูให้แน่ใจว่าบรรจุภัณฑ์นั้นสามารถปกป้องสินค้าที่อยู่ข้างในระหว่างการขนส่งได้ คำนึงถึงการยืดขยายของซองและความแข็งแรงของตะเข็บ ซองของ DHL Express สามารถยืดขยายได้ถึง 350 มม. และมีตะเข็บที่แข็งแรงทนทาน เราใช้กาวคุณภาพสูงเพื่อให้มั่นใจว่าซองจะไม่ปริขาดหรือเปิดอ้าในระหว่างการขนส่ง

เสื้อผ้าทั่วไป

เสื้อผ้าทั่วไปสามารถใส่ซองพลาสติกหรือกล่องกระดาษได้ โดยควรแยกเสื้อผ้าแต่ละชิ้นออกจากกันเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง แนะนำให้ใช้กล่องที่มีขนาดพอดีกับเสื้อผ้าที่จะส่ง เพราะกล่องที่มีช่องว่างจะบุบง่ายระหว่างขนส่ง จากนั้นให้แพ็คเสื้อผ้าตามขั้นตอนต่อไปนี้

·      ห่อเสื้อผ้าด้วยพลาสติกกันกระแทกหรือกระดาษคราฟท์ แล้วบรรจุลงในกล่องหรือซองของ DHL Express

·      ปิดซอง และติดเทปให้เรียบร้อย

·      ติดใบขนลงบนซองให้เห็นชัดเจน

เสื้อผ้าที่บอบบาง

·      เสื้อผ้าที่บอบบางควรบรรจุในกล่องสองชั้น เว้นแต่จะใช้กล่องที่คุณหามาเอง

รองเท้า

กล่องรองเท้าธรรมดาไม่แข็งแรงพอที่จะปกป้องรองเท้าที่อยู่ข้างในได้ ต้องแพ็คอีกครั้งก่อนส่ง DHL Express มีตัวเลือก 2 ตัวเลือกให้คุณ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและมูลค่าของสินค้า

1. รองเท้าทั่วไป ที่มีน้ำหนักต่ำกว่า 3 กก.

·      นำกล่องรองเท้าใส่ในซองขนาดใหญ่ของ DHL Express

·      ปิดซองโดยพับขอบซองให้แนบไปกับกล่องรองเท้า ปิดเทปทับส่วนที่พับ

·      ติดใบขนลงบนซองให้เห็นชัดเจน

2. รองเท้าราคาแพง หรือมีน้ำหนักมากกว่า 3 กก.

·      นำกล่องรองเท้าใส่ในกล่องชั้นนอก

·      ปิดขอบกล่องและฝากล่องให้สนิทในรูปแบบตัว H

·      ติดใบขนบนกล่องให้เห็นชัดเจน

มั่นใจได้เลยว่า DHL Express จะดูแลสินค้าของคุณอย่างดี ต่อจากนี้ไม่ต้องกังวลเมื่อส่งเสื้อผ้าไปต่างประเทศอีกต่อไป DHL Express เป็นลอจิสติกส์พาร์ทเนอร์ของแบรนด์แฟชั่นทั่วโลก เราสนับสนุนการจัด Fashion Week ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย และให้บริการขนส่งสินค้าแฟชั่นของดีไซเนอร์ต่างประเทศเข้ามาในไทย เพื่อมาร่วมจัดแสดงในงานต่างๆ นอกจากนี้ เรายังมีบริการลอจิสติกส์เฉพาะทาง เช่น บริการสำหรับอีคอมเมิร์ซ และบริการจัดส่งสินค้าไปยังหน้าร้านและศูนย์จำหน่ายสินค้า เป็นต้น

ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ DHL Express คือผู้ช่วยที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณส่งเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น​ไปถึงมือผู้รับอย่างสะดวกและรวดเร็ว ด้วยบริการที่เป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้แบรนด์ของคุณมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในสายตาลูกค้าต่างชาติ นอกจากนี้เรายังบริการ Door-to-door service ที่รับและส่งสินค้าถึงหน้าประตูบ้าน ช่วยให้คุณไม่ต้องออกจากบ้าน และประหยัดเวลาไปใช้กับการวางกลยุทธ์ธุรกิจ