#คําแนะนําด้านโลจิสติกส์

ส่งของไปต่างประเทศและลดการปล่อยคาร์บอนไปกับ DHL Express

5 นาทีอ่าน
facebook sharing button
twitter sharing button
linkedin sharing button
Smart Share Buttons Icon Share
ส่งของไปต่างประเทศและลดการปล่อยคาร์บอนไปกับ DHL Express

ความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงศัพท์ฮิตอีกต่อไป มันได้กลายเป็นส่วนสําคัญของธุรกิจและชีวิตส่วนตัวของเราไปแล้ว ด้วยความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการปกป้องสิ่งแวดล้อม การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเราจึงกลายเป็นสิ่งจําเป็น DHL Express ประเทศไทย ตระหนักถึงสิ่งนี้ จึงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นําในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เราให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนโดยการให้ความรู้แก่ลูกค้าของเราเกี่ยวกับวิธีลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อจัดส่งพัสดุทั้งในและต่างประเทศ เป้าหมายของเราคือเพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทต่างๆ ในประเทศไทยสามารถเข้าถึงกลยุทธ์และทรัพยากรที่จําเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนไปด้วยกันกับเราในขณะที่ภาคธุรกิจปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ในปัจจุบัน 

ในบทความนี้ เราจะพูดถึงบริการที่คํานึงถึงสิ่งแวดล้อมของ DHL Express Thailand และความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยคาร์บอนจากการส่งของไปต่างประเทศกับเรา รวมถึงประโยชน์ที่ธุรกิจหรือบริษัทจะได้รับเมื่อใช้บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของเรานี้  

การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนที่ยั่งยืนคืออะไร

ความสําคัญของการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืนเกี่ยวข้องกับการจัดการปล่อยคาร์บอนและการสร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ สิ่งสําคัญคือต้องพิจารณาซัพพลายเชนทั้งหมด ตั้งแต่การจัดหาวัสดุ ไปจนถึงการจัดส่งสินค้า เพื่อให้ทราบวิธีลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างเช่น เรือบรรทุกสินค้ามีบทบาทสําคัญในการนําเข้าและส่งออกทั่วทั้งซัพพลายเชน ด้วยเหตุนี้ เรือบรรทุกสินค้าจึงพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นอย่างมาก ซึ่งมีส่วนในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ (GHG) สู่ชั้นบรรยากาศ สิ่งนี้นําไปสู่การเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก กล่าวคือก๊าซเรือนกระจกทำให้ความร้อนถูกกักไว้ใกล้กับพื้นผิวโลก ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน การปล่อยมลพิษจากภาคการขนส่งระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 5% ในปี 2021 ซึ่งดีดตัวขึ้นหลังจากลดลงอย่างรวดเร็วในปี 2020 ตามรายงานของสํานักงานพลังงานระหว่างประเทศ

โลจิสติกส์ที่ยั่งยืนหมายถึงแนวปฏิบัติในการบูรณาการหลักการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคมเข้ากับกระบวนการโลจิสติกส์ทั้งหมด ตั้งแต่การจัดหาและการผลิต ไปจนถึงการขนส่งและการจัดส่งถึงมือผู้รับ ดังนั้น การดําเนินงานด้านโลจิสติกส์จึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลดการปล่อยคาร์บอน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร และส่งเสริมการปฏิบัติที่มีจริยธรรมภายในซัพพลายเชน

วิธีต่างๆ ครอบคลุมถึงการเปลี่ยนมาใช้วิธีการขนส่งที่ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้โซลูชั่นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเพิ่มประสิทธิภาพในการกําหนดเส้นทาง การจัดตารางเวลาขนส่งเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงให้ได้มากที่สุด และการนําเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดการสร้างขยะ ซึ่งธุรกิจหรือบริษัทต่างๆ สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ยกระดับชื่อเสียง และเดินหน้าไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นมากขึ้นได้เช่นกัน

ขอแนะนํา GoGreen Plus โซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

หากพูดถึงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและส่งเสริมความยั่งยืนในการขนส่ง DHL Express ประเทศไทยถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้า เรามีบริการ GoGreen Plus ที่เป็นนวัตกรรมและโซลูชันที่ครอบคลุมนี้นอกเหนือไปจากการชดเชยคาร์บอนแบบดั้งเดิม และนําเสนอเครื่องมือและความคิดริเริ่มต่างๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีส่วนร่วมในการปกป้องสิ่งแวดล้อม

เพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการทํางานของ GoGreen Plus สิ่งสําคัญคือต้องแยกความแตกต่างระหว่างแนวคิดหลักสองประการ นั่น offsetting และ insetting

ความหมายของ offsetting คือการชดเชยการปล่อยคาร์บอนที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในโครงการที่ลดหรือกําจัดการปล่อยคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศ ในปริมาณที่เท่ากันเพื่อชดเชยกับที่ได้ปล่อยคาร์บอนออกมา

ส่วน insetting มีแนวทางทางตรงกันข้าม โดย insetting มุ่งเน้นไปที่การลดการปล่อยมลพิษตั้งแต่ภายในกระบวนการดําเนินงานและซัพพลายเชนของบริษัท

GoGreen Plus คือบริการที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนแบบ insetting อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง DHL Express ประเทศไทยประสบความสําเร็จจากการนำการริเร่มต่างๆ มาใช้กับผู้ใช้ขนส่งระหว่างประเทศกับเรา ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางการขนส่ง การใช้ยานพาหนะที่ประหยัดพลังงาน และการนําเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel - SAF) มาใช้

DHL Express ประเทศไทย ใช้ SAF เป็นเชื้อเพลิงการบินเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าทางอากาศของเรา SAF ผลิตขึ้นจากวัตถุดิบหมุนเวียนและมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ต่ำกว่ามาก เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงการบินแบบดั้งเดิม

แนวทางเชิงรุกในการลดการปล่อยคาร์บอนแบบ insetting นี้ช่วยให้ DHL Express ประเทศไทย สามารถดําเนินการลดการปล่อยมลพิษที่เกิดจากการขนส่งทางอากาศได้โดยตรง และมีส่วนร่วมในการสร้างอุตสาหกรรมการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนยิ่งขึ้น

หนึ่งในคุณสมบัติหลักของบริการ GoGreen Plus จาก DHL Express คือการเน้นการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างยั่งยืน เราเข้าใจความสําคัญของการพิจารณาซัพพลายเชนทั้งหมดทุกขั้นตอน และพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งรวมถึงการจัดการกับการปล่อยมลพิษทั้ง 3 ขอบเขตด้วยกัน คือ Scope 1, Scope 2 และ Scope 3 ซึ่งเป็นระบบการจําแนกขอบเขตของการปล่อยคาร์บอนที่พัฒนาตามแนวทางที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

Scope 1

หมายถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรงที่เกิดจากแหล่งที่เราเป็นเจ้าของหรือควบคุม ถ้าพูดถึงบริบทของผู้ให้บริการขนส่งอย่าง DHL Express การปล่อยคาร์บอนใน Scope 1 ก็จะหมายถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากยานพาหนะและอุปกรณ์ของเราเอง ซึ่ง DHL Express ประเทศไทยเองซึ่งเป็นผู้ให้บริการนำเข้าและส่งออกระหว่างประเทศ ดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้ ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพฝูงบินที่ใช้ในการขนส่งสินค้าข้ามประเทศ รวมถึงเปลี่ยนมาใช้รถขนส่งไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงาน

Scope 2

ครอบคลุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมที่เกิดจากการผลิตพลังงานที่ซื้อมา เช่น ไฟฟ้า ที่ DHL Express ประเทศไทย เราส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน Scope 2 รวมถึงการจัดหาพลังงานที่สะอาดขึ้นสําหรับการดําเนินงานของเรา

Scope 3

สิ่งเหล่านี้เป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมทางธุรกิจของคุณ แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือควบคุมกิจกรรมนั้นโดยตรง ตัวอย่างของการปล่อยคาร์ใน Scope 3 การปล่อยมลพิษจากการเดินทางเพื่อธุรกิจในต่างประเทศ การกําจัดทำลายผลิตภัณฑ์ที่ขาย หรือการเกิดของเสียจากดําเนินงานประจําวัน

DHL Express ประเทศไทยตั้งเป้าบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ผ่านการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel - SAF) ที่เพิ่มขึ้น การก่อสร้างอาคารใหม่ที่เป็นกลางทางคาร์บอน การใช้ยานพาหนะไฟฟ้า (รถขนส่งไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า) คิดเป็น 60% ของยานพาหนะทั้งหมดในการขนส่งไมล์สุดท้าย และอื่นๆ

สำหรับการส่งของไปต่างประเทศ เมื่อผู้ส่งเลือกบริการ GoGreen Plus เท่ากับคุณกำลังแสดงออกให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องสิ่งแวดล้อม สร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทในด้านความยั่งยืนและมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม DHL Express ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจต่างๆ บนเส้นทางแห่งความยั่งยืน และพร้อมที่จะช่วยเหลือธุรกิจในการดําเนินกลยุทธ์การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่มีประสิทธิภาพ

ร่วมปกป้องสิ่งแวดล้อมกับ DHL Express 

การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นวาระสําคัญและเร่งด่วนของโลก และอุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีบทบาทสําคัญในการบรรลุเป้าหมายนี้ DHL Express ในฐานะผู้นําระดับโลกด้านโลจิสติกส์ จึงมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และส่งเสริมความยั่งยืนผ่านบริการ GoGreen Plus

GoGreen Plus มอบโซลูชั่นที่ครอบคลุมให้กับผู้ส่งของไปต่างประเทศไปกับเครื่องบินขนส่งสินค้าของเรา โดยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) เรามีระบบคํานวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่แม่นยํา และมีมาตรการลดการปล่อยมลพิษที่ครอบคลุมและผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ

สำหรับธุรกิจส่งออก นำเข้า หรือผู้ที่ส่งของไปต่างประเทศบ่อยๆ เปิดบัญชีธุรกิจกับเราวันนี้ และเรียนรู้แนวทางปฏิบัติด้านโลจิสติกส์ที่ยั่งยืนไปกับเราเพื่อมุ่งสู่อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นไปด้วยกัน