ส่งออกไปฟิลิปปินส์: ข้อควรรู้และคำแนะนำก่อนส่งออก

ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่มีหมู่เกาะจำนวน 7,641 เกาะ มีประชากรมากกว่า 111 ล้านคน ทําให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก¹ ด้วยการเติบโตของ GDP และอีคอมเมิร์ซที่น่าประทับใจ และชนชั้นกลางที่กําลังขยายตัว ตลาดนี้จึงเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสําหรับธุรกิจข้ามพรมแดน  

เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซชั้นนําในฟิลิปปินส์⁸

Shopee และ Lazada เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นในตลาดอีคอมเมิร์ซในฟิลิปปินส์ และครองส่วนแบ่งการตลาดส่วนใหญ่ แต่มาร์เก็ตเพลสอื่น ๆ ก็เป็นที่นิยมในฟิลิปปินส์เช่นกัน

หมวดหมู่สินค้ายอดนิยมในการค้าออนไลน์ในฟิลิปปินส์ (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2022)⁹

ประเทศผู้นําเข้ารายใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์¹⁰

ประมาณหนึ่งในห้าของการนําเข้าทั้งหมดของฟิลิปปินส์มาจากประเทศจีน ในปี 2021 ประเทศคู่ค้านําเข้าชั้นนํา ได้แก่

วิธีการชําระเงินยอดนิยมสำหรับการทําธุรกรรมอีคอมเมิร์ซในฟิลิปปินส์ในปี 2022¹¹

กิจกรรมช้อปปิ้งที่สําคัญและวันหยุด

ฟิลิปปินส์มีกิจกรรมช้อปปิ้ง และวันหยุดต่างๆ ตลอดทั้งปี คุณสามารถอ่านรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นี่: 

วันขึ้นปีใหม่ (1 มกราคม) 
วันปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่ดีสําหรับธุรกิจในการเสนอขายสินค้าและบริการที่ลดราคา วันปีใหม่ยังเป็นวันหยุดราชการในฟิลิปปินส์ ซึ่งหมายความว่าชาวฟิลิปปินส์จะมีเวลามากขึ้นในการเรียกดูและซื้อสินค้าออนไลน์ 
 
วันแม่ (วันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม) และวันพ่อแห่งชาติ (วันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายน) 
สินค้ายอดนิยมที่จะขายออนไลน์ ได้แก่ สินค้าและบริการที่ได้รับความนิยมจากคุณแม่ เช่น ดอกไม้ เครื่องประดับ และแพ็คเกจสปา ในขณะเดียวกันของขวัญที่เป็นที่นิยมสําหรับวันพ่อ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ กีฬา
 
วันคนโสด (11 พ.ย.) 
ในฟิลิปปินส์ 11.11 หรือที่เรียกว่าวันคนโสด ถือเป็นหนึ่งในวันขายออนไลน์ที่ดีที่สุดสําหรับธุรกิจ เป็นที่นิยมอย่างมากในภูมิภาคเอเชีย เป็นโอกาสที่ดีสําหรับธุรกิจในการขายสินค้าที่มักจะขายเป็นคู่ เช่น รองเท้า ต่างหู และหูฟัง  
 
Black Friday, Cyber Monday (วันจันทร์หลัง Black Friday) และ Boxing Day (26 ธันวาคม)  
นักช้อปชาวฟิลิปปินส์ที่เชี่ยวชาญทราบดีว่าข้อเสนอที่ดีที่สุดทางออนไลน์สามารถพบได้ในวันหยุดช้อปปิ้งทั้งสองวันติดต่อกันนี้ Black Friday เกิดขึ้นในวันศุกร์แรกหลังจากวันขอบคุณพระเจ้า ในขณะที่ Cyber Monday ตรงกับวันจันทร์หลัง Black Friday 

กฎระเบียบศุลกากรและการนําเข้าสินค้าของฟิลิปปินส์

การชำระภาษีนําเข้าในฟิลิปปินส์นั้นตรงไปตรงมา แต่คุณยังต้องรู้ว่าคุณกําลังทําอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าปรับ  

เอกสารที่จําเป็นสําหรับการนําเข้าสินค้า

• ใบตราส่งสินค้าหรือใบตราส่งสินค้าทางอากาศ Lading or Airway Bill) ที่ได้รับการรับรอง
• ใบแจ้งหนี้ที่แสดงมูลค่าทางการค้าของสินค้า 
• รายการบรรจุภัณฑ์ (Packing list) พร้อมข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับสินค้า
• Supplemental Declaration on Valuation (SDV) 
   

ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าที่นําเข้าอาจต้องใช้เอกสารเพิ่มเติม รวมถึงสิ่งต่อไปนี้: 

• ใบอนุญาตนําเข้าสําหรับฟิลิปปินส์ หรือใบอนุญาต (Import license for the Philippines or permit )
• ใบรับรองแหล่งกําเนิดสินค้า (Certificate of origin) สําหรับผลิตภัณฑ์เหล่านั้นที่ครอบคลุมโดย ภาษีพิเศษภายใต้ข้อตกลง การค้าเสรี
• เอกสารและใบรับรองอื่น ๆ ที่พิสูจน์การยกเว้นภาษีและค่าธรรมเนียมศุลกากรใน ฟิลิปปินส์ 
• Authority to Release Imported Goods (ATRIG)
• ใบรับรองเครดิตภาษี (Tax Credit Certificate - TCC) 
• ใบลดหย่อนภาษี (Tax Debit Memo - TDM) 
• หากมีการใช้คําวินิจฉัยในการสำแดงสินค้า จําเป็นต้องมีสําเนาคําตัดสิน

De minimis คือ มูลค่าชิปเมนต์ที่ต่ํากว่า 10,000 PHP 

ดังนั้นจึงไม่ต้องเสียภาษีสําหรับชิปเมนต์ที่มีมูลค่าน้อยกว่านี้ แต่ผู้ส่งควรระบุมูลค่าการส่งสินค้าที่ถูกต้อง และครบถ้วน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา 

อย่าแยกส่งชิปเมนต์เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี 

การแยกส่งชิปเมนต์เพื่อหลีกเลี่ยงเกณฑ์ขั้นต่ํา อาจทําให้เกิดความล่าช้า หรือบทลงโทษ 

สินค้า และหมวดหมู่สินค้าที่ได้รับการควบคุม

• อุปกรณ์ไฟฟ้า ต้องได้รับอนุญาตจากสํานักมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (Bureau of Product Standard - BPS)
• เครื่องประดับ  ต้องเสียภาษีสรรพสามิต
•  โทเค็น USD และซิมการ์ด จะต้องผ่านการตรวจสอบทางศุลกากร
•  ฮาร์ดไดรฟ์ต้องได้รับอนุญาตจาก Optical Media Board (OMB) และ  มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม  
• อุปกรณ์โทรคมนาคม ต้องได้รับ ใบอนุญาต และ/หรือ การอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (National Telecommunications Commission) และมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม 
• อาหารและยาต้องได้รับใบอนุญาตจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Food and Drug Administration - FDA) และมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม 

การส่งออกไปยังฟิลิปปินส์: เว็บไซต์ทางการและลิงก์ที่มีประโยชน์

• ศุลกากรฟิลิปปินส์ : https://customs.gov.ph/
• ข้อกําหนดและข้อบังคับของ Philippine Economic Zone Authority (PEZA) โปรดไปที่: https://www.peza.gov.ph/
• สําหรับ ข้อกําหนด และข้อจํากัดในการนําเข้าอาหารและ ยา โปรดติดต่อสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาฟิลิปปินส์  https://www.fda.gov.ph/

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่งออกไปยังฟิลิปปินส์ โปรดอ่านคู่มือของ DHL

คําแนะนําจากผู้เชี่ยวชาญของ DHL ในการส่งออกไปยังฟิลิปปินส์

• ผู้นําเข้าควรลงทะเบียนกับสํานักงานศุลกากรฟิลิปปินส์ 
• หากชิปเมนต์เป็นสินค้าควบคุม ควรมีใบอนุญาตจากหน่วยงานรัฐของฟิลิปปินส์ที่เกี่ยวข้อง คุณสามารถดูรายการสินค้าควบคุม ได้ที่นี่ 
• ควรสำแดงมูลค่าที่ครบถ้วน และถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงการยึดสินค้า 
• คําอธิบายสินค้าควรมีความเฉพาะเจาะจง และมีรายละเอียด 
• หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดหากทําได้—มีบทลงโทษสําหรับข้อผิดพลาดทางเอกสาร
• เป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่เชื่อถือได้ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับที่ซับซ้อนทางศุลกากร และการนําเข้า/ส่งออกของฟิลิปปินส์

เคล็ดลับในการนําเข้าฟิลิปปินส์ให้ประสบความสําเร็จ

เคล็ดลับสามประการในการนําเข้าฟิลิปปินส์ให้ประสบความสําเร็จมีดังนี้ 

1. เข้าใจกฎระเบียบการนําเข้า: ก่อนที่จะส่งสินค้าไปยังฟิลิปปินส์ สิ่งสําคัญคือต้องเข้าใจกฎระเบียบการนําเข้า เช่น ภาษีศุลกากร และภาษี 
2. เป็นพันธมิตรกับผู้จัดจําหน่ายในท้องถิ่น: การเป็นพันธมิตรกับตัวแทนจําหน่ายในท้องถิ่น สามารถช่วยให้คุณปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับในท้องถิ่นได้ง่ายขึ้น 
3. วิจัยตลาดเป้าหมายของคุณ: การวิจัยตลาดเป้าหมายของคุณสามารถช่วยให้คุณเข้าใจความชอบของผู้บริโภคได้ดีขึ้น 

นําเสนอบริการอีคอมเมิร์ซที่ราบรื่นด้วย DHL DTP

ด้วย DHL DTP (Duty and Taxes Paid) ผู้ขายจะชําระอากรขาเข้า ภาษี และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งสินค้า ทําให้ผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์สามารถรับสินค้าได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

DHL DTP เป็นบริการที่มีคุณค่าสําหรับผู้ขายข้ามพรมแดนที่ต้องการเข้าถึงผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ ด้วยการนําเสนอประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ราบรื่น และไม่ยุ่งยาก ผู้ขายสามารถเพิ่มความพึงพอใจ และความภักดีของลูกค้า และสร้างสถานะแบรนด์ที่แข็งแกร่งในตลาดฟิลิปปินส์