จากประกาศของกรมศุลกากร การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดนี้เพื่อให้การยกเว้นอากร สำหรับของที่นำเข้าเป็นไปด้วยความเหมาะสมและรัดกุม ซึ่งแต่ละรายมีราคาไม่เกินที่อธิบดีกรมศุลกากรประกาศกำหนดด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามประเภท 12 ของภาค 4 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 โดยเป็นไปตามนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล
คําถามที่พบบ่อย การจัดเก็บภาษีนําเข้าสําหรับสินค้าที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569
การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดด้านศุลกากรเกี่ยวกับการเรียกเก็บอากรนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากสินค้านำเข้าในประเทศไทยที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 บาท
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2568
อ้างอิงจากประกาศกรมศุลกากรที่ 219/2568 เรื่อง หลักเกณฑ์ของนำเข้าที่ได้รับยกเว้นอากรตามประเภท 12 ของภาค 4 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530
เพื่อให้การยกเว้นอากร สำหรับของที่นำเข้าซึ่งแต่ละรายมีราคาไม่เกินที่อธิบดีกรมศุลกากรประกาศกำหนดด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามประเภท 12 ของภาค 4 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 เป็นไปด้วยความเหมาะสมและรัดกุม
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ประกอบกับประเภท 12 ของภาค 4 ของที่ได้รับยกเว้นอากร แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2557 อธิบดีกรมศุลกากรด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
- ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศกรมศุลกากร ที่ 191/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์ของนำเข้าที่ได้รับยกเว้นอากรตามประเภท 12 ของภาค 4 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
- ข้อ 2 ของที่นำเข้า ซึ่งแต่ละรายมีราคาไม่เกิน 1 บาท ได้รับยกเว้นอากร
- ข้อ 3 ราคา หมายถึง ราคาศุลกากร
- ข้อ 4 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2569 เป็นต้นไป
โดยสามารถอ้างอิงจากประกาศกรมศุลกากร ที่นี่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าผู้ใช้บริการนำเข้าสินค้าสู่ประเทศไทยจาก DHL Express สามารถศึกษาคำถามที่พบบ่อย ดังนี้
คำถามทั่วไป
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป สินค้านำเข้าสู่ประเทศไทยที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 บาท จะถูกเรียกเก็บอากรนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) จากเดิมที่มีการยกเว้นอากรนำเข้า สำหรับสินค้ามูลค่าต่ำ (มูลค่า 1-1,500 บาท) ที่นำเข้าสู่ประเทศไทย
ตามข้อกำหนดศุลกากร การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป โดยไม่ระบุวันสิ้นสุด
ตามข้อกำหนดศุลกากร การเปลี่ยนแปลงมีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป โดยไม่ระบุวันสิ้นสุด
การเปลี่ยนแปลงนี้ประกาศโดยกรมศุลกากร สามารถดูประกาศกรมศุลกากร ที่นี่ หรือติดต่อกรมศุลกากรได้โดยตรงเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call Center เบอร์ 1164 หรือ อีเมล 1164@customs.go.th
อากร หมายถึง เงินรายได้ของประเทศที่กฎหมายกำหนดให้กรมศุลกากรเป็นหน่วยงานจัดเก็บจากการนำของเข้ามาในราชอาณาจักรหรือส่งของออกไปนอกราชอาณาจักร หรือจากกรณีอื่นๆ ตามที่บัญญัติในกฎหมายศุลกากรและกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราศุลกากร ตลอดจนกฎหมายอื่นที่กำหนดให้เป็นอากรศุลกากร
ของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นของที่ต้องเสียอากร สามารถค้นหาอัตราอากร ได้จากพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 ที่เว็บไซต์ศุลกากร
ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT คือภาษีที่กรมสรรพากรเรียกเก็บจากผู้บริโภค โดยในไทยกำหนดให้เก็บที่อัตรา 7% ของราคาขายสินค้าหรือบริการ เพื่อเข้าสู่คลังของประเทศ
DHL Express จะไม่นำส่งสินค้าแก่ผู้รับ จนกว่าจะมีการชำระอากรและภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
สําหรับชิปเมนต์ขาเข้าที่มีเงื่อนไขให้เรียกเก็บค่าอากรและภาษีที่ผู้นําเข้าหรือผู้รับ (DTU) มีรายละเอียดดังนี้
- กรณีค่าอากรและภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกันไม่เกิน 200 บาท จะได้รับการยกเว้นค่าบริการสํารองจ่าย (Duty Tax Processing)
- กรณีค่าอากรและภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกันเกิน 200 บาท
- ค่าบริการสํารองจ่ายโดย DHL ในนามผู้รับหรือผู้นําเข้าที่ไม่มี DHL Account สําหรับพัสดุภัณฑ์ขาเข้าที่ถูกดําเนินพิธีการศุลกากรและมีค่าธรรมเนียม และภาษีที่ต้องชําระ 2% ของมูลค่าภาษีและค่าธรรมเนียมบนใบแจ้งหนี้ ขั้นต่ำ 200 บาท แต่ไม่เกิน 2,000 บาท
- ค่าบริการสํารองจ่ายโดย DHL ในนามผู้รับหรือผู้นําเข้าที่มี DHL Account สําหรับพัสดุภัณฑ์ขาเข้าที่ถูกดําเนินพิธีการศุลกากรและมีค่าธรรมเนียมและ ภาษีที่ต้องชําระ ทั้งนี้ ผู้รับจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและภาษี เมื่อถึงวันที่ที่ตกลงกันไว้ ที่ 2% ของมูลค่าภาษีและค่าธรรมเนียมบนใบแจ้งหนี้ ขั้นต่ำ 210 บาท แต่ไม่เกิน 2,000 บาท
- กรณีลูกค้านําเข้าสินค้าที่มีค่าอากรขาเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกันมากกว่า 500,000 บาท แผนกพิธีการศุลกากรขาเข้าจะทําการติดต่อไปยังลูกค้าก่อนทําการตรวจปล่อยสินค้า เพื่อให้ท่านได้รับทราบค่าใช้จ่าย ยืนยันการตรวจปล่อยสินค้า และส่งหลักฐานการชําระเงิน
สามารถศึกษาอัตราอากรของสินค้าที่นำเข้าได้จาก Integrated Tariff Database ใน เว็บไซต์กรมศุลกากร หรือเครื่องมือตรวจสอบอัตราภาษีของ DHL Express ที่ MyGTS
หากนำเข้าสินค้าเข้ามาในไทยกับ DHL Express และมีค่าภาษีที่ต้องชำระ ผู้รับจะได้รับการแจ้งเตือนผ่าน SMS หรืออีเมลที่ผู้ส่งได้ระบุไว้
ผู้รับสามารถชำระได้ผ่านช่องทาง ดังนี้
- ชำระด้วยบัตรเครดิต หรือ QR payment บนแพลตฟอร์ม ADC (Advance Duty Collection) ของ DHL Express ซึ่งผู้รับจะได้ลิงก์ชำระเงินทาง SMS หรืออีเมลที่ผู้ส่งได้ระบุไว้
- ชำระผ่าน QR payment ในวันที่รับสินค้า โดยเจ้าหน้าที่คูเรียร์จะเป็นผู้สร้างลิงก์ QR payment ให้ผู้รับโดยตรง
หลังจากชำระเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะนำส่งสินค้าแก่ผู้รับต่อไป
ผู้ชำระจะได้รับใบเสร็จศุลกากร และ Duty Invoice
กรุณาติดต่อกรมสรรพากร หรือกรมศุลกากรโดยตรงเพื่อสอบถามข้อมูล
ของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร หากมีมูลค่าตั้งแต่ 1 บาท เป็นของที่ต้องเสียอากร โดยไม่ได้รับการยกเว้น
ของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เป็นของที่ต้องเสียอากร แม้จะเป็นของที่ถูก Return กลับมาจากประเทศปลายทางก็ตาม
หากการนำเข้าสำเร็จแล้ว ยังคงมีภาระค่าภาษีและอากรที่ต้องชำระอยู่ ในกรณีที่ผู้รับต้องการส่งคืนผู้ส่งหรือให้ทำลาย สามารถติดต่อที่ฝ่ายบริการลูกค้าได้ ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-345 5000
ไม่ได้ เมื่อสินค้าผ่านเข้าสู่ประเทศไทย จะถูกดำเนินขั้นตอนด้านศุลกากรเสร็จสิ้นจากข้อมูลที่ผู้ส่งระบุตามรายละเอียดสินค้า เพื่อป้องกันความผิดพลาดและความล่าช้าในการขนส่ง ผู้ส่งควรกรอกรายละเอียดสินค้า รวมถึงมูลค่าให้ถูกต้องตามความเป็นจริง
การบังคับใช้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับที่ระบุในประกาศกรมศุลกากร โดย DHL Express เป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ จึงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของหน่วยงานศุลกากร หรือหน่วยงานที่มีอำนาจเกี่ยวข้องทั้งในประเทศต้นทางและปลายทาง
การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดด้านศุลกากรเกี่ยวกับการเรียกเก็บอากรนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) นี้ ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงค่าบริการของ DHL แต่อย่างใด
กรุณาตรวจสอบรายการของที่ได้รับยกเว้นอากร บนเว็บไซต์ของกรมศุลกากร เรื่อง การยกเว้นอากร ตามภาค 4 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530
การบังคับใช้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับที่ระบุในประกาศกรมศุลกากร ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายการของนำเข้าที่ได้รับการยกเว้นอากร บนเว็บไซต์ของกรมศุลกากร เรื่อง การยกเว้นอากร ตามภาค 4 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530
ผู้ส่งและผู้รับ (ผู้นำเข้า) ควรเตรียมตัวอย่างไร
เพื่อการนำเข้าสินค้าที่รวดเร็วและเป็นไปอย่างราบรื่น ผู้ส่งและผู้รับควรศึกษา ติดตามข้อมูลระเบียบพิธีการนำเข้า รวมถึงตกลงเรื่องเงื่อนไข (Term and Condition) ในการซื้อขายเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดหลังมาตการนี้มีผลบังคับใช้
นอกจากนี้ ผู้ส่งและผู้รับควรตรวจสอบรายละเอียด (ภาษาอังกฤษ) ดังต่อไปนี้ก่อนเริ่มนำเข้าสินค้าสู่ประเทศไทย
- สำแดงรายละเอียดสินค้าให้ถูกต้อง ครบถ้วน และมูลค่าสินค้าตามจริง
- ระบุชื่อและที่อยู่ผู้นำเข้า/ผู้รับ ให้ถูกต้องตามข้อมูลผู้นำเข้าและผู้เสียภาษี
- ระบุอีเมลและเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ถูกต้องและใช้งานได้จริงของผู้นำเข้า/ผู้รับ เพื่อให้ DHL Express ส่งลิงก์ชำระเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และ/หรืออากรศุลกากร (Duties) ได้
สามารถศึกษาอัตราอากรของสินค้าที่นำเข้าได้จาก Integrated Tariff Database ใน เว็บไซต์กรมศุลกากร หรือเครื่องมือตรวจสอบอัตราภาษีของ DHL Express ที่ MyGTS
เนื่องจากค่าอากรนำเข้าที่เกิดขึ้นจะเป็นความรับผิดชอบของผู้ส่งหรือผู้นำเข้า (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนดโดยผู้ส่งหรือผู้นำเข้า) ผู้รับและผู้ส่งจึงควรตกลงเงื่อนไขการชำระอากรหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อย